กระรอกกับอิสระที่หายไปในป่าปูน

 

กระรอกกับอิสระที่หายไปในป่าปูน

ก่อนหน้านี้ฉันเคยคิดว่า สัตว์ป่า มันก็อยู่ในป่า จะมีชีวิตยังไงก็เรื่องของมัน แต่พอวันหนึ่งที่ฉันได้เข้ามาเรียนรู้ ในรั้วคณะสัตวแพทยศาตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พร้อมกับความคิดที่ถูกปลูกฝังว่า หนึ่งชีวิตมีค่าเท่ากับหนึ่งชีวิต นั่นคือ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ชนิดใดก็ล้วนแต่มีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ในแบบที่มันควรจะเป็น มีอิสระที่มันควรจะได้ ทำให้ฉันเริ่มมองชีวิตของสัตว์ต่างๆแตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะสัตว์ป่าที่ถูกนำมาเลี้ยงในเมือง

หลายเคสที่เข้ามาในโรงพยาบาลสัตว์ ถ้าไม่นับสัตว์เลี้ยงธรรมดาพวกหมาแมวแล้วล่ะก็ จะมีสัตว์อีกประเภทหนึ่งที่เรียกว่า “Exotic pet” เป็นสัตว์พิเศษที่คนสรรหากันมาเลี้ยงด้วยความรัก (ส่วนตัวของเขา) และเกือบครึ่งที่เป็นสัตว์ป่าที่นำออกมาจากป่า โดยการพรากชีวิตปกติของเขาเข้ามาอยู่ในเมืองนั่นเอง

ฉันได้มีโอกาสขึ้นไปในห้องรักษาสัตว์พิเศษบ่อยครั้ง จนรู้สึกว่า “คำว่ารัก” ที่มนุษย์พยายามยัดเยียดให้กับสัตว์นั้นมันมากเกินไป จนบางทีมันก็กลายเป็นผลร้ายกับพวกเขามากกว่าผลดี ยกตัวอย่างสัตว์ชนิดหนึ่งที่ฉันไม่แนะนำให้หามาเลี้ยงกันเลยนั่นคือ “กระรอก”

กระรอก เป็นสัตว์ที่ปราดเปรียว หากินอยู่บนเรือนยอดของแมกไม้ต่างๆ ชอบที่จะวิ่งไปมาตามกิ่งไม้ต้นโน้นต้นนี้ แต่เมื่อเหล่ามนุษย์ผู้รักในความปราดเปรียวของมัน และความน่าเอ็นดูด้วยความที่มันเป็นสัตว์ขนฟู จึงมีการนำมันออกมาจากโพรงตั้งแต่ยังเป็นตัวน้อย ตัวแดงๆ มาเลี้ยงดูกัน หากเราเดินที่ตลาดนัดจตุจักร เราจะเห็นเจ้ากระรอกจำนวนมากถูกขังอยู่ในกรงเล็กๆพร้อมกับกล้วยดำๆชิ้นเล็กวางอยู่ในกรง คนขายเมื่อเห็นว่าเราทำท่าทางสนใจก็จะเริ่มสนนราคาทันที

“ตัวสองร้อยน้อง พี่ลดให้กันเองร้อยห้าสิบ”

หนึ่งชีวิตมีค่าแค่เท่านี้เหรอ????

ฉันทำท่าทางเหมือนสนใจแต่ความจริงแล้วฉันรู้สึกสงสารพวกมันมากกว่า เมื่อฉันสอบถามเจ้าของร้านก็ได้ความว่ากระรอกเหล่านี้เขาล้วงออกมาจากโพรงในธรรมชาติ ซึ่งขายได้ราคาดีเพราะวัยรุ่นสมัยนี้นิยมเลี้ยงกันเป็นเพื่อนคลายเหงา นอกจากนี้หากใครสามารถสรรหา สายโซ่คล้องคอเส้นงามๆให้มันได้สักเส้น จะมีความกิ๊บเก๋มากเลยทีเดียว

ฉันรู้จักเพื่อนอยู่คนหนึ่งที่เลี้ยงกระรอก เขาก็ซื้อกระรอกพวกนี้แหละไปเลี้ยง ไม่กี่วันมันก็เป็นโรคปอดอักเสบ บางตัวอดอาหารไม่ยอมทานอะไร ฉันสงสารเจ้าสัตว์ตัวเล็กๆเหล่านี้เหลือเกินแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากภาวนาให้มันหนีจากพันธนาการนั้นให้ได้ในสักวันหนึ่ง

โภชนาการของพวกมันก็เป็นสิ่งสำคัญ กระรอกที่วันๆกินแต่อาหารเด็กอ่อน(ซีรีแลกซ์) ไม่นานฟันของมันที่เคยสบกันพอดีก็จะมีอันงอกยาวผิดธรรมชาติและกลายเป็นแผลที่เหงือก ทำให้กินอะไรไม่ได้ บางตัวอดตายโดยที่เจ้าของไม่รู้ก็มี...ธรรมชาติสร้างฟันกระรอกให้เป็นสัตว์ฟันแทะแต่คนก็อุตริ ให้แต่อาหารอ่อนไม่ช้าเจ้ากระรอกสุดที่รักก็ตายไป

เท่าที่ฉันรู้จักคนเลี้ยงกระรอกมา ไม่เคยมีใครเลี้ยงมันจนแก่ตายเลยสักคนเดียว

บางทีเมื่อเจ้ากระรอกน้อยกระโดดโลดเต้นอยากปีนต้นไม้เจ้าของผู้รู้ใจมันก็รีบทักท้วงในทันที

“แป้งอย่าเอามันใกล้ต้นไม้นะ เดี๋ยวมันเพลินไม่ยอมลง หันกลับมากัด”

“ก็ดีแล้วนี่ ก็ให้มันไปดิ กระรอกควรอยู่บนต้นไม้มากกว่าอยู่ในกรง มันกัดคงเป็นเพราะมันอยากอยู่ต่อ”

ฉันตอบกลับไปแบบซื่อๆ เพราะฉันเชื่อว่าสัตว์เหล่านี้ล้วนมีเหตุผลที่มันจะทำ มันเพียงแค่อยากทำในสิ่งที่มันทำ ทำในสิ่งที่มันเป็น เราเองต่างหากที่ไปบังคับธรรมชาติมัน หากเรารักสัตว์พวกนี้จริง ฉันอยากให้เรารักยามที่มันอยู่ในธรรมชาติอย่างมีความสุข มากกว่ารักเมื่อนำมันอยู่ในกรง

หากใครได้อ่านบทความนี้แล้ว เมื่อคุณเดินผ่านร้านขายกระรอก ขอความกรุณาอย่าสนับสนุนการพรากอิสระของพวกเขาเลยนะคะ เหมือนกับถ้าคุณเดินผ่านแล้วมีคนบอกคุณว่า

“เอาสร้อยล่ามคอสักเส้นมั๊ยพี่ ยี่สิบบาทเอง”

 

 

 

Comments

ความคิดเห็น

ความเห็นที่ 1

บทความแรกค่ะ อยากแสดงออกทางความคิดให้ทุกคนได้รับรู้และร่วมกันลด ละ เลิก สนับสนุนการค้าที่ทรมานสัตว์ค่ะ

ความเห็นที่ 2

ขอบคุณครับ เติมภาพกระรอกหลากสี สีขาว แบบที่พบตามแนวเขาหินปูนในแถบภาคกลางให้นะครับ 

ความเห็นที่ 3

ไม่สนับสนุนการซื้อสัตว์ป่ามาเลี้ยงดีที่สุดครับ

สัตวพิเศษ ฟังดูแล้วยังกะวิชาหนึ่งใน Harry Potter แหน่ะ

ความเห็นที่ 4

"หากเรารักสัตว์พวกนี้จริง ฉันอยากให้เรารักยามที่มันอยู่ในธรรมชาติอย่างมีความสุข มากกว่ารักเมื่อนำมันอยู่ในกรง"

เป็นบทความที่ดีและเข้าถึงคนทั่วไปได้ดีครับ

ปล แอบแก้คำผิดให้สองที่นะครับ

ความเห็นที่ 5

ย้อนกลับมาอ่านบทความนี้อีกรอบ ผมมองว่า สิ่งหนึ่งที่เราต้องยอมรับคือ เราคงไม่มีวันบอกให้คนทุกคนไปดูกระรอกในป่าได้ ดังนั้นการเลี้ยงยังไงก็จะยังมีอยู่ต่อไปอีกนานแสนนาน(สาบานว่าผมเองเดินผ่านตรงที่เค้าขายกระรอกทุกวันยังคันเลยครับ กรงที่บ้านก็ว่างๆ) 

ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่เราทำได้ โดยเฉพาะในถานะสัตวแพทย์ คือการแนะนำการเลี้ยงที่ถูกต้องที่สุด ยกตัวอย่างเช่น อาหารที่กล่าวถึงในบทความว่าให้แต่ซีรีแลค ที่ถูกต้องแล้วควรจะเป็นอาหารอะไรบ้าง ของลูกกระรอก ของกระรอกเด็ก กระรอกโต ผมว่าห้ามไม่ได้แต่อย่างน้อย เราก็ทำให้กระรอกที่ถูกจับมาเลี้ยงมีอายุที่ยืนยาวขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และอาจจะแพร่พันธุ์ให้ลูกหลาน จะได้ไม่ต้องมีการไปจับมาจากธรรมชาติอีก 

ผมเป็นคนหนึ่งที่เชื่อว่าสัตว์ในที่เลี้ยง ที่เลี้ยงอย่างเข้าใจ เป็นสัตว์ที่มีความสุขได้ 

บทความนี้ยังเพิ่มเติมปรับปรุงได้อีกมาก ในคคห.ของผมครับ  

ความเห็นที่ 6

ขอบคุณสำหรับทุกความเห็น จะนำไปปรับแก้ให้นะคะ และขอบคุณสำหรับรูปประกอบด้วยค่ะ

ความเห็นที่ 7

บางครั้งผมก็คิดว่า เราเอาป่าออกมาไว้ในปูน หรือ เราเอาปูนเข้าไปแทนป่า ที่อยู่อาศัยและอาหารของพวกเขาหายไปไหน เพราะใคร

ความเห็นที่ 8

การเลี้ยงกระรอก ควรมีความรู้ ผมเลี้ยงมาหลายตัว ตอนแรกเลี้ยงใส่กรง และเริ่มปล่อยในห้อง จากนั้นก็เอามันไปปล่อยข้างนอก เพราะความคิดที่ว่า มันอยู่ข้างนอกคงมีความสุขกว่า แต่ผลที่ได้ พวกมันไม่ไปครับ มันยังคงกลับมาหาเรา แม้จะปล่อยขี้นต้นไม้ ปีนเล่นได้สักพัก มันก็จะมองหาเราและกระโดดมาเกาะเรา พวกมันติดชอบกินนมมาก แต่เราก็ให้ผลไม้แข็งด้วย และไม้ให้มันแทะฟัน
เลี้ยงสัตว์อะไรก็เลี้ยงไปเถอะ ถ้าคุณให้ความรักกับมันเท่าไหร่ มันก็จะรักคุณมากเท่านั้น สรุป ถ้าเลี้ยงมันจนเชื่องแล้ว อย่าเอามันไปปล่อย เพราะมันอยากอยู่กับคุณ ไม่ได้อยากไปไหน

ความเห็นที่ 9

การเลี้ยงกระรอก ควรมีความรู้ ผมเลี้ยงมาหลายตัว ตอนแรกเลี้ยงใส่กรง และเริ่มปล่อยในห้อง จากนั้นก็เอามันไปปล่อยข้างนอก เพราะความคิดที่ว่า มันอยู่ข้างนอกคงมีความสุขกว่า แต่ผลที่ได้ พวกมันไม่ไปครับ มันยังคงกลับมาหาเรา แม้จะปล่อยขี้นต้นไม้ ปีนเล่นได้สักพัก มันก็จะมองหาเราและกระโดดมาเกาะเรา พวกมันติดชอบกินนมมาก แต่เราก็ให้ผลไม้แข็งด้วย และไม้ให้มันแทะฟัน
เลี้ยงสัตว์อะไรก็เลี้ยงไปเถอะ ถ้าคุณให้ความรักกับมันเท่าไหร่ มันก็จะรักคุณมากเท่านั้น สรุป ถ้าเลี้ยงมันจนเชื่องแล้ว อย่าเอามันไปปล่อย เพราะมันอยากอยู่กับคุณ ไม่ได้อยากไปไหน