ทำไมการขายนกป่าที่ JJ กลับถุกละเลย???? หรือ WFFT เป็นเป้านิ่ง เล่นงานเอาหน้าได้ง่ายดี

Comments

ความเห็นที่ 1

ความเห็นที่ 2

ตามที่ฝรั่งพูด "แค่เพียงเพราะพวกเขาออกมาพูดเรือ่งการลักลอบค้าสัตว์ป่า กับเรือ่งช้างในข่าว เขาก็ถูกกระทำแบบนี้ เพื่อ ปิดปาก"

ความเห็นที่ 3

ความเห็นที่ 4

เวรจริงพวกนี้

ความเห็นที่ 5

ได้ลงข่าวสามมิติแล้ว

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded_decode_entities("",...!

ความเห็นที่ 6

เหตุผลง่ายๆครับ..ที่นี่ประเทศไทย

ความเห็นที่ 7

อยากได้คนที่รักสัตว์จิงๆ ทำเพื่อสัตว์จิง ไปร่วมงานจัง

ความเห็นที่ 8

เมื่อเช้าดูข่าวอธิบดี (หรือไม่ดี?) มายืนเถียงกับเจ้าหน้าที่องค์กร
ดูแล้วเค้าก็เป็นคนจริงจัง ว่าไปตามกฏหมาย
แต่!!!!!!!!! ไอ้ที่ทำผิดอยู่ใกล้ๆ กรมฯ น่ะ กฏหมายมันไปไม่ถึงหรืออย่างไร ????????
แล้วเราจะทำอย่างไรกันดีครับ

ความเห็นที่ 9

เพราะเราไม่เคยจับคนที่เป็นต้นตอได้เลย มีแต่เบ๊มารับหน้าแทน
แล้วคนทางบ้านก็ด่าๆเบ๊คนนั้นจนสะใจแล้วก็เลิกสน แต่คนข้างก็ไม่โดนอะไรเลย

เมื่อไหร่ที่คนต้นตอโดนสาวถึงตัวนั่นแหละครับทุกอย่างก็ใกล้จะจบ แต่เรื่องแบบนั้นมันมาไม่เคยถึงเลย
มีแต่พวกเบ๊กับแพะรับแทนทั้งนั้น

ความเห็นที่ 10

+Like สำหรับเจ้าของกระทู้นี้ yes
+Very Hate แด่กรมอุทยาน no >> บัดซบที่สุด!!!

ความเห็นที่ 11

<ดูแล้วเค้าก็เป็นคนจริงจัง ว่าไปตามกฏหมาย>

ไม่อยากจะสาวใส้ คนที่เคยเอางบฯ หลวง เวลาหลวง เกณฑ์ จนท. ของเขตฯ อุทยานฯ ต่างๆ เกือบทั่วประเทศ  ไปทำตัวเป็นอันธพาลทางการเมืองสมัย "เมืองไทยรายสัปดน" กำลังฮิต ที่สวนลุมฯ  (ประมาณ 2548-49) ไม่รู้ว่ายึดตามระเบียบ กม. รึป่าว??????

ความเห็นที่ 11.1

ผมมองแค่ผิวเผิน จากคนนอกที่ไม่ได้รู้จักมักจี่ครับอาจารย์
ผมว่าตาสียายสา ก็คงรู้จักแค่ในทีวีอย่างผมนี่แหละครับ
เพราะฉนั้น ทำอย่างไรเราถึงจะทำให้คนทั่วไปรู้ข้อเท็จจริงเหล่านี้ได้ครับ
 

ความเห็นที่ 12

ข่าวเรื่องเล่าเช้านี้  <คลิ๊ก

ข่าวมติชน  <คลิ๊ก


โดยส่วนตัวรู้สึกว่า    "สัตว์นะไม่ใช่สิ่งของ ที่จะเอาไปก่อนแล้วค่อยตรวจสอบ" เพราะพูดเหมือนจับไปก่อนตรวจทีหลัง ?

มีหลายประเด็น
1 ทางมูลนิธิ มีใบอนุญาติครอบครองครบหรือไม่

2 ทางมูลนิธิ แจ้ง อช ไปแล้วให้เอาสัตว์ไปปล่อย แต่ทาง อช ยังไม่มาซะที (รอไป 5 ปี 6 ปี มีเอกสารด้วย ) โดยอธิบดีตอบว่ามันต้องรอตามคิว ทำให้เกิดคำถามว่า ถ้ามันอยู่ระหว่างรอ แล้วจะหาว่าเขาเลี้ยงไว้ไม่เอาไปปล่อยได้อย่างไร

3 สัตว์ที่ัคนจับมาเลี้ยงหรือบาดเจ็บมา ปล่อยคืนป่าได้โดยไม่ต้องกลัวเชื้อโรคจริงหรือ ? หรือ มันกลับไปอยู่ป่าได้จริงหรือ เพราะเท่าที่รู้มา มันไม่ใช่อย่างงั้น



ความเห็นที่ 12.1

like++++++

ความเห็นที่ 12.2

ขอบคุณมากครับ
เพิ่งได้ดูเต็มๆ ปรี๊ดแตกเลยครับ
ทำอย่างไรกับพวกถือกฏหมายจอมปลอมพวกนี่กันดีครับ

ความเห็นที่ 12.3

พอรู้ว่ามีคนที่พอจะแฉได้ แต่ตอนนี้เค้ายุ่งและมุ่งมั่นกับการทำงานของเค้าไปเสียแล้ว

ความเห็นที่ 13

ความเห็นที่ 14

เห็นแล้วเหนื่อยใจหว่ะ แม่ง เดียวเรื่องก็เงียบไป

ถ้าฟ้องกลับ ศาลก็จะอยู่ข้างรัฐบาลอีก ห่วยแตกสิ้นดี

ความเห็นที่ 15

ที่อธิบดีบอกว่าทำไมไม่เอาไปปล่อย... คุณเคยรู้มั้ยว่าสัตว์ป่าที่มาอยู่กับคนแล้วก่อนปล่อยมันต้องปรับพฤติกรรมเค้าก่อนเค้าถึงจะเอาตัวรอดอยู่ในธรรมชาติได้ การปล่อยสัตว์ไม่ใช่คิดอยากจะปล่อยตรงไหนก็ปล่อยต้องคิดถึงสัตว์เจ้าถิ่นที่มีอยู่ก่อนด้วย ปล่อยไปแล้วก็ต้องคอยมาตามดูว่ามันสามารถเข้ากับฝูงใหม่ได้หรือไม่ หาอาหารได้มั้ย ไม่ใช่แค่ปล่อยๆไปก็จบ นั่น = ส่งเค้าไปตายชัดๆ... แล้วที่บอกว่าปล่อยไปแล้วหลายตัวนี่ไม่รู้ว่าปล่อยแบบไหนกันแน่

ความเห็นที่ 15.1

ถุยออกมาเหมือนคนไม่รู้เรื่องสัตว์ป่าเลย แต่เป็นอธิบดีกรมอุทฯ ได้ยังไง?????

ความเห็นที่ 16

ผมฟังอันนี้ ...ฟังแล้วหงุดหงิดกับสำนวนการพูดและน้ำเสียงอย่างบอกไม่ถูก angry

ลองฟังๆดูครับ ผมนั่งฟังจนหมดคลิปอ่ะ

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=_IH_hMJho_Q

ความเห็นที่ 17

เอ็ดวิน คุณคือฮี่โร่ ของสัตว์ป่า คุณทำดีที่สุดแล้วผมว่าคนไทยส่วนใหญ่เข้าใจคุณว่าคุณทำเพื่ออะไรครับ พี่ทอม ดันดี ดันให้ถึงที่สุดนะครับ ขอแสดงความนับถือด้วยใจจริง ประเทศไทยยังไม่ไร้ซึ่งคนดีจริงๆเอาใจช่วยทั้งพี่ทอมและเอ็ดวินครับ อย่ายอมแพ้  (ดำรงค์ มึงคือขี้ข้าของ รมต.  7-8 เดือนมีงก็จะเกษียรแล้ว ขอโกยก่อนใช่ไหม มึงนั่งอยู่ใกล้ๆทำไมไม่ไปดูจตุจักรวะไปดูบ้างจะได็หูตาสว่าง แต่คงตาบอดเพราะเงินบังตาแล้วเนอะ คดีแล่เสือ ฆ่าช้าง ยังไม่สรุปเลยเบี่ยงประเด็นซินะไอ้เวร) อาจารย์หมีน้าครับ ขอยืมคำคมมาใช้หน่อยนะครับ "มนุษย์เลวยิ่งกว่าเดรัจฉาน)

ความเห็นที่ 18

ส่วนตัวผมเองก็ได้รู้จักกับคุณเอ็ดวินตั้งแต่ยังไม่ได้ตั้งมูลนิธิ แต่ก็รับสัตว์ที่มีปัญหา (เมื่อก่อนจะเน้นลิงเท่านั้น) ซึ่งหากคนที่รู้จักลิงมากพอจะรู้ว่าปัญหาของลิงมันรุนแรงจริงๆ ผมไม่ได้เจอเขานานแล้ว เพียงแต่ตามความเคลื่อนไหวผ่านทางสื่อ

สำหรับอธิบดีฯ ผมก็มองว่าท่านตรงไปตรงมา ต้องการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งก็เป็นที่ชื่นชมมาตลอด แต่มาครั้งนี้ท่านลืมดูลูกน้องของท่าน (ผมเชื่ออย่างนั้น) ทำให้การตัดสินใจของท่านในครั้งนี้เป็นตราบาปในใจของท่าน (ทั้งที่ไม่เจตนาให้เป็น) หากท่านได้รับรู้ความจริงที่เพียงพอ

ความเห็นที่ 19

เจาะข่าวเด่น

http://www.youtube.com/watch?v=pt3dQr--Ycs

ความเห็นที่ 20

ครอบครองยังจับซะขนาดนี้ แต่ค้าขายที่จตุจักรดันไม่ทำอะไรเลย  

สงสัยต้องเปลี่ยนจากสถานรักษาพยาบาลสัตว์เป็นสถานที่ค้าขายแทน จะได้ไม่โดนบุกจับ ฮาๆๆ

ใครจะทำกับผมบ้าง รวยนะครับ เอิ๊กๆๆ  

ความเห็นที่ 21

อยากให้ลองแยกเรื่องจตุจัตรออกจากเรื่องนี้ก่อนนะค่ะ มองให้มันเป็นคนละเรื่องกัน
ทีนี่มาพิจารณาคดีนี้ จากเท่าที่รุ้เห็นและตามพี่สัตวแพทย์ไปจับสัตว์มา มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่ามีสัตว์จำนวนมาก และบางตัวไม่มีใบอนุญาตที่ถูกต้อง ใบรับรองบางอันก็ไม่ใช่เอกสารราชการซึ่งจะใช้นำมายืนยันไม่ได้ ตามกฎหมายแล้วทางมูลนิธิต้องมีสัตวแพทย์ชำนาญการซึ่งเป็นคนไทย แต่ทางมูลนิธิก็ไม่มี มูลนิธิมีการติดป้ายรับรักษาสัตว์พร้อมราคาที่เรียกเก็บซึ่งจริงๆแล้วไม่สามารถทำได้เนื่องจากจดทะเบียนเป็นมูลนิธิไม่ได้จดเป็นสถานประกอบการรักษาสัตว์ 
ทางมูลนิธิมีการเลี้ยงหรือปล่อยชะนีไว้ที่เกาะกลางแหล่งน้ำ ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถใช้แหล่งน้ำในพื้นที่ได้ อาจทำให้เกิดโรคติดต่อหากใช้แหล่งน้ำร่วมกันสัตว์ 
สัตว์ที่หายดีแล้วก็ไม่มีการนำปล่อยสู่ป่าจริงๆ หรือใครเคยร่วมกิจกรรมการปล่อยสัตว์คืนสู่ป่าของมูลนิธิก็มาบอกเล่าสู่กันฟังด้วยค่ะ เพราะถามจากหลายๆคนที่เคยร่วมงานกับมูลนิธิก็ไม่มีใครรุ้ว่าปล่อยสัตว์คืนสู่ป่าที่ไหน อย่างไรบ้าง
ส่วนมองต่างมุม อาสาสมัครชาวต่างชาติได้รับข้อมูลด้านเดียวจากทางคุณเอ็ดวิน เพราะเขาสื่อสารภาษาไทยไม่ได้และอีกแง่หนึ่งคือไม่ยอมรับฟัง เขามองว่าเจ้าหน้าที่ทารุณสัตว์ ไม่ยอมยิงยาสลบ ซึ่งจริงๆแล้วสัตว์ที่อยู่ในกรงก็ไม่ควรเสี่ยงที่จะยิงยาสลบเพราะการให้ยาก็มีผลเสี่ยงต่อสัตว์ด้วย หากช่วยกันไล่ต้อนก็จับได้ไม่ยาก แต่อาสาสมัครมาขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ หากยิงยาสลบแต่ยังส่งเสียงดังยังตะโกนนอกจากจะยิงไม่โดน อาจจะโดนส่วนอื่นซึ่งเป็นอันตรายแล้ว สัตว์ก็อาจจะไม่หลับก็ได้ เหมือนคนโดนยานอนหลับแต่มีคนมาตะโกนอยู่ข้างหูก็ยังตื่นกลัวตลอดเวลา 
เรื่องการดูแลสัตว์ของเจ้าหน้าที่ เชื่อว่าสถานที่ฝากขังของทางราชการคงจะดีสู่ที่มุลนิธิไม่ได้ สัตว์อาจจะไม่มีความสุขเท่าไหร่นัก คิดว่าควรจะเป็นแรงผลักดันให้ราชการพัฒนาระบบและการดูแลรักษาให้ดีขึ้นด้วย...แต่สุดท้ายอย่างไรกฎหมายก็ย่อมเป็นกฎหมาย อยากให้มีการตรวจสอบให้ถูกต้องเพื่อจะได้ไม่เกิดกระบวนการสวมรอย เลี้ยงเพราะชอบ รัก หรืออื่นๆ ซึ่งก็จะเป็นการกักขังสัตว์อยู่ดี
"เรื่องของคนทะเลาะกัน แต่สัตว์ซวย"

ความเห็นที่ 21.1

เรื่องปล่อยชะนีไว้ที่เกาะกลางแหล่งน้ำ 

ในไทยมีหลายแห่งมากเลยครับ ที่พอจะรู้ก็ไม่ต่ำกว่า 10 แห่ง และผิดกฎหมายด้วย
ในสถานศึกษาก็มี เอิ๊กๆๆ

ความเห็นที่ 22

อาจจะไม่ได้รู้เห็นทุกแง่มุม แต่อยากให้ค่อยๆคุยกันด้วยเหตุผล หาข้อมูลหลายๆด้านก่อนตัดสินใจนะค่ะ ยอมรับว่าระบบราชการบ้านเราก็ยังไม่เข้มงวดอยู่ดี :(

ความเห็นที่ 23

ผมเห็นด้วยในบางประเด็นของคุณ fidelius ซึ่งทางมูลนิธิควรดำเนินการ เช่น การขอตั้งเป็นสถานพยาบาลสัตว์ซึ่งต้องดำเนินการตามกฎหมายไทยทุกประการ ส่วนในแง่การเอาสัตว์ไปไว้ที่หน่วยงานของกรมอุทยานฯก่อนนั้น ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เรื่องเอกสารมีไม่มีนั้นผมมองข้ามไปแล้ว เพราะเจ้าตัวยืนยันว่ามีและพร้อมให้ตรวจสอบแล้ว (มาถึงวันนี้คงรู้แล้วว่ามีจริงหรือไม่) ในกรณีที่มีเอกสารไม่ครบถ้วน (กรณีมีครบคงไม่ต้องกล่าวถึคง) ทางกรมฯสามารถอายัดสัตว์เหล่านั้นได้ แต่ถ้าเห็นว่าในสถานที่นั้นมันยังอยู่ดีเพียงพอและดีกว่าไปอยู่ในมือของกรมฯ ก็ควรให้สัตว์อยู่ตรงนั้นก่อน แต่ห้ามเคลื่อนย้ายไปไหน (มี จนท.มาดูแลด้วย) จนกว่าการดำเนินตามกฎหมายถึงที่สุด ในขณะที่สัตว์ที่ปล่อยสู่ธรรมชาติไม่ยุ่งยากก็มีการเตรียมความพร้อมปล่อยควบคู่กันไปด้วย  แล้วในส่วนสถานที่ของกรมฯนั้น ผมอยากให้เก็บไว้รองรับกับสัตว์ที่ครองครองไม่ถูกต้องและโดนทารุณ หรือไม่สุขสบายจริงๆมาดูแลมากกว่า สิ่งที่กรมฯควรคำนึงคือ กฎหมาย และสวัสดิภาพสัตว์ ไม่ใช่อ้างแต่กฎหมาย โดยไม่สนใจว่าสัตว์จะอยู่อย่างไร ด้วยงบประมาณที่จำกัดในการดูแลสัตว์ให้มีความเป็นอยู่ตามสมควร ผมว่าส่วนของมูลนิธิจะช่วยแบ่งเบาภาระได้มากพอสมควร ส่วนการดำเนินตามกฎหมายก็ให้ดำเนินไปเช่นกัน

โลกปัจจุบันเขาทำงานกันเป็นเครือข่ายกันหมดแล้ว การจัดการสัตว์ป่านั้นไม่สามารถดำเนินการได้ด้วยกรมเพียงกรมเดียวหรอกครับ ขอให้กฎหมายเป็นแนวทางในการดำเนินการ แต่ไม่ใช่เอามาเป็นกะลาครอบความคิดที่สร้างสรรค์ในการบริหารจัดการเลยครับ

ปล. กะลากับกฎหมาย ผมรวมถึงกรมอื่นๆด้วยนะครับไม่ว่าจะสังกัดกระทรวงไหนก็ตาม

ความเห็นที่ 23.1

"สิ่งที่กรมฯควรคำนึงคือ กฎหมาย และสวัสดิภาพสัตว์ ไม่ใช่อ้างแต่กฎหมาย โดยไม่สนใจว่าสัตว์จะอยู่อย่างไร"

+yesyesyes  
เจตนาของกฎหมายไม่ว่าที่ใดในโลก >> คือแก้ปัญหา ไม่ใช่สร้างปัญหา

ความเห็นที่ 23.2

yes ถูกใจครับ

ความเห็นที่ 24

"กฏหมายของไทยไม่มีรูรั่วสำหรับคนคิดดี แต่มีรูพรุนสำหรับคนคิดร้าย" กรณีมูลนิธิกับจตุจักรก็เป็นคนละเรื่องเดียวกัน ที่เกิดมานาน แถมอยู่หน้าบ้านยังแก้ไม่ได้ อายเขาไหมละ่ครับพี่น้อง

ความเห็นที่ 25

ความเห็นที่ 26

สงสารเหล่าสรรพสัตว์เขาไม่เคยรู้เรื่องอะไรด้วย ที่ต้องมาซวยซ้ำซ้อน ครั้งแรกถูกจับมา แล้วมีโอกาสที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น กลับถูกกลุ่มคนที่บอกว่าต้องทำเพื่อรักษากฎหมาย (ที่ต้องรักษาไว้ไม่ให้เข้าตัว ที่เขาบอกว่า "เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นนั่นใช่เลย) ที่่ไม่สามารถโอนอ่อนผ่อนปนให้ได้ แต่กลับมาทำให้ชีวิตของสัตว์ที่เริ่มดีขึ้นล่มสลายในบัดดล สุดท้ายต้องกลับมาอยู่ในสภาพเดิมๆหรือแย่กว่าเดิมอีก โอ้ย ! อะไรกันวะประเทศไทย นี่คือการทำตามกฎหมาย สัตว์อยู่อย่างไรไม่เกี่ยวกับกู กูทำตามหน้าที่เท่านั้นเป็นพอ แค่นั้นหรืออย่างไร สัตว์ถูกกักขังมานานพอมาอยู่ที่ๆเปรียบเสมือนบ้าน มีที่วิ่งเล่น ที่ปีนป่าย อาหารการกินไม่ลำบากลำบนค้นแค้น แล้วทำไม่ทำกับเขาแบบนี้ มันเป็นข้อหาที่ร้ายแรงขนาดนั้นเชี่ยวหริอ (ไม่ได้มาโต้แย้งใดๆทั้งสิ้น) มาเพื่อบอกว่าคนส่วนใหญ่เขาคิดเขารู้ว่าเป็นเพราะอะไร หลายหน่วยงานกำกับดูแลถือกฎหมายฉบับเดียวกัน แต่ปฏิบัติไม่เหมือนกัน อะไรวะ แล้วต่อไป(กู)จะเชื่อหน่วยไหนดี นี่แหละระบบการทำงานของไทย ฮ่วย ! ถ้าคิดได้แค่นี้ ลูกผมก็คิดได้ว่ะ นี่เป็นคำถามเล็กๆน้อยๆจากลูกสาวผมระหว่างนั่งดูทีวีด้วยกัน (ถาม พ่อๆเขาเอาช้างขึ้นรถทำไมอ่ะ ตอบ เขาเอาช้างไปดูแลครับ ถาม ช้างเป็นอะไรหรือคะ ตอบ ช้างเป็นของกลางค่ะ ถาม ของกลางคืออะไรคะ ตอบ ของกลางคือของที่คนทำผิดแล้วถูกตำรวจยึดค่ะ  ถาม อ้าวแล้วช้างทำผิดอะไรหรือคะ ตอบ ช้างไม่ได้ทำผิดค่ะ แต่เจ้าของช้างอาจจะทำผิด ตอบ อ้าวแล้วทำไมจับช้างล่ะคะ ทำไมไม่จับคนทำผิด (เอ่อ!ใบ้แดกซิขอรับ) เพื่อย่นย่อคำถาม เลยสรุปมาให้ฟังว่า เขาไม่เข้าใจว่าทำไมสัตว์ไม่ได้ทำผิด แต่ทำไมสัตว์ต้องถูกจับไปขัง (ที่ท่านอธิบดี ดำรงค์ เรียกว่าเอาไปดูแลแหละครับ)