แพขยะแห่งแปซิฟิก กับ นกอัลบาทรอส หนึ่งในสิ่งบ่งชี้ผลกระทบต่อธรรมชาติ

บทความนี้แปลจาก
http://photographyforagreenerplanet.wordpress.com/2009/11/30/chris-jorda...

แพขยะแห่งแปซิฟิก กับ นกอัลบาทรอส หนึ่งในสิ่งบ่งชี้ผลกระทบต่อธรรมชาติ

เรื่อง/ภาพโดย Chris Jordan
แปล/เรียบเรียง GreenEyes

Comments

ความเห็นที่ 1

ราวปี 2009 แพขยะใหญ่แห่งมหาสมุทรแปซิฟิก (Great Pacific Garbage Patch) ที่วังวนแห่งมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือ (North Pacific Gyre) มีขนาดใหญ่กว่ารัฐเทกซัสไปแล้วราวๆสองเท่าโดยที่เราไม่รู้ตัว

ขยะพวกนี้มาจากขยะที่เราทิ้งบนแผ่นดิน แม่น้ำลำคลอง และ ท่อระบายน้ำ ราว 80%และ จากเรือ และการท่องเที่ยวทางทะเลอีก 20% โดยขยะเหล่านี้เกือบทั้งหมดคือ พลาสติก วัสดุสังเคราะห์จากน้ำมือพวกเรา ที่แทบจะไม่ย่อยสลายเลย

แพขยะทะเลตะวันออกก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ ขยะทั้งหลายจะมารวมตัวกันโดยกระแสน้ำในมหาสมุทร แพขยะในย่านมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือจะถูกกำกับโดยกระแสน้ำในวังวนแปซิฟิกเหนือ รูปแบบการไหลของกระแสน้ำจะพัดเอาขยะทั้งหมดที่ลอยน้ำในบริเวณมหาสมุทรมารวมตัวกัน

แม้ว่าพลาสติกจะเป็นวัสดุอะไรที่สารพัดประโยชน์ แต่มันก็คือความผิดพลาดอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นจากความชุ่ยที่เราทิ้งขวดพลาสติก หีบห่อบรรจุภัณฑ์ทั้งหลายลงสู่ธรรมชาติ

.
.

ความเห็นที่ 2

พลาสติกพวกนี้ไม่ได้ย่อยสลายทางชีวภาพ แต่ย่อยสลายด้วยแสงแดด ซึ่งก็แค่ทำให้มีขนาดเล็กลงๆอย่างช้ามากๆ แต่รูปร่างโมเลกุล ความคงทน ความเป็นพิษยังคงมีอยู่

แม้กระทั่งจนตาเปล่ามองไม่เห็นก็ยังส่งผลเสียต่อแพลงตอนที่กินมันเข้าไป และไม่ใช่แค่แพลงตอน แต่ เต่าทะเล ปลา แมงกระพรุน นกน้ำ และสัตว์อื่นๆ ก็มักกินพลาสติกพวกนี้เข้าไปเพราะนึกว่ามันเป็นอาหาร

พลาสติกพวกนี้นอกจากจะไปติดอยู่ในทางเดินอาหารโดยไม่สามารถย่อยได้แล้ว ยังค่อยๆปล่อยสารก่อมะเร็งต่างๆออกมา และนอกจากนี้ พลาสติกยังเป็นวัสดุที่ดูดซับสารเคมีเป็นพิษต่างๆอย่างยาฆ่าแมลง สารเคมีอุตสาหกรรม และฮอร์โมนสังเคราะห์ได้ดีอีกด้วย

.
.

ความเห็นที่ 3

สัตว์ชนิดหนึ่งที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากขยะพวกนี้คือ นกอัลบาทรอส โดยเฉพาะ  Black Footed Albatross และ Laysan Albatross ที่ทำรังอยู่ในเกาะบริเวณวงวนแห่งมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือ ที่ตอนนี้อยู่สถานะความเสี่ยงขั้นวิกฤติต่อการสูญพันธุ์ (endangered species)

นอกจากที่พวกมันตายจากการทำประมงแบบเบ็ดราว มันก็มักกินพลาสติกสีสดๆจากแพขยะทะเลเหล่านี้ เข้าไปเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นอาหาร ซึ่งทำให้เกิดการอุดตันอยู่ในท้อง สะสมไปเรื่อยๆ เป็นเดือนๆ จนไม่สามารถกินอะไรเข้าไปได้ และตายในที่สุด

คริส จอร์แดน ช่างภาพธรรมชาติ ได้เดินทางสำรวจรอบบริเวณวงวนแปซิฟิกเหนือ และได้นำภาพเหล่านี้กลับมาเปิดเผย ซึ่งไม่ใช่แค่ตัวเต็มวัยของนกจะได้รับผลกระทบ แม้แต่ศพลูกนกก็ยังเต็มไปด้วยขยะในท้องของมัน ที่แม่มันขย้อนออกมาให้ลูกกิน

สภาพศพที่เน่าเปื่อยผุพัง ทำให้เราเห็นถึงเศษพลาสติกมากมายที่ติดอยู่ในท้องของพวกมัน นกอัลบาทรอส ที่มีขนาดใหญ่และเรามองเห็นได้ แต่นอกจากนี้ที่เรามองไม่เห็น พลาสติกที่ถูกสลายให้เล็กลงและสารพิษที่มันนำมา ก็สะสมถ่ายทอดอยู่ในห่วงโซ่อาหาร เริ่มจากแพลงตอน สู่ปลาเล็ก สู่ปลาใหญ่ และสุดท้ายสู่พวกเราที่นำมันมากิน

ขยะเหล่านี้ยังคงถูกทิ้งลงสู่ธรรมชาติทุกวี่ทุกวัน วนเวียนอยู่ในโลกใบเล็กๆนี้ และกลับสู่พวกเรา

และนี่คือโลกที่เรากำลังจะให้ลูกของเราอาศัยอยู่



ขอบคุณช่างภาพธรรมชาติ Chris Jordan ที่นำภาพเหล่านี้มาฝากกันครับ

.
.

ความเห็นที่ 4

โหย กินเข้าไปแต่ละอย่าง 

อีกอันที่น่าสนใจ เคยอ่านเจอว่าเม็ดพลาสติกเล็กๆที่ใส่อยู่ในโฟมล้างหน้า ก็เริ่มก่อให้เกิดปัญหากับพวกแพลงตอนแล้ว พวกนี้กินเข้าไปเหมือนกัน แล้วก็กินกันต่อๆไปเรื่อยๆ 

ความเห็นที่ 5

เข้ามาเชียร์เฮีย^^

ความเห็นที่ 6

เฮ้อ สลดจริงๆ

เคยเห็นนกเงือกที่เขาใหญ่กินฝาขวดพลาสติกเหมือนกันครับ

ความเห็นที่ 7

เฮ้ออออออออออ .......  นึกถึงช้างไทยเลยแฮะ 

ความเห็นที่ 8

เง้อ..เศร้า

ความเห็นที่ 9

ซากแต่ละตัวสยองมาก

ความเห็นที่ 10

อึ๋ย!ขยะเต็มท้อง สยองเกล้า...  frown
แสดงว่าพวกนี้มีพฤติกรรมงับอะไรได้ก็กลืนหรือเปล่าครับ?(แบบนกตะกรุม)

ความเห็นที่ 11

ภาพพวกนี้จากเวบเมืองนอก แต่ที่รู้มันนานแล้วนี่ครับ ตั้งแต่บอร์ดเก่า แล้วก็ไม่ใช่มีแต่นก ยังมีเต่า ปลา ปลาฉลาม แม้แต่วาฬ ก็โดนครับ ตอนนี้ที่รู้เขากำลังจัดการอยู่ครับ แต่ไม่รู้สำเร็จหรือเปล่า นี่แหละคน ไม่ว่าประเทศไหนก็คล้ายกันหมด(ยกเว้นบางประเทศครับ) เมื่อวันก่อนผมดูเนชั่นแนลจีโอ หงห์ ตายเพราะกินตะกั่วถ่วงเบ็กตกปลา(ไม่มีเบ็ด)ผลสรุปตะกั่วเป็นพิษครับ ในเนชั่นแนลปาร์คกลางกรุงวอชิงตั้นดีซีเลยครับ เลยมีมาตรการควบคุมออกมากันยกใหญ่