7 day in Mindanao Phillipines ≧(´▽｀)≦

พอมีเหตุขัดข้องเลย move กันไปดูนกที่ Picop’s การเดินทางจาก Cagayan De'Oro  ไป Picop’s ที่อยู่เมือง Bislig( อ่านรายละเอียดของเมือง Bisligได้ที่นี่จ้า

http://en.wikipedia.org/wiki/Bislig) เราต้องต่อรถ 2 ทอด ใช้เวลาเดินทางกันเกือบ 12 ชั่วโมง    ระยะทางไม่ไกลมาก แต่การจราจรไม่ดี มีการซ่อมถนนตลอดทาง  ต้องรอรถสับหลีก แบ่งๆ ทางกันไป

ที่ว่ารถร้อนนี่ เหมือนรถหวานเย็นแถวบ้านเราเลยค่ะ แวะส่งคนตามหมู่บ้านด้วย  รถที่จะไปถึงเมือง Bislig มีรถปรับอากาศเป็นบางวันเท่านั้น จะว่าไปแล้ว ส่วนตัวชอบบรรยากาศแบบนี้มาก ได้เห็นอะไรๆ รอบตัวเยอะดี  ทำให้เราได้เห็นว่าคนแถวนั้นกินไง อยู่ไงด้วย
ถ้า อยู่บ้านเราคงทำไม่ได้ จะให้นั่งรถร้อนไปเที่ยวแบบยโสธร ร้อยเอ็ด เราก็ทำไม่ได้หรอกเพราะเราติดสบาย คงคิดว่ามีรถก็ขับรถไปเองดีกว่า เห็นคนแบกอุปกรณ์ดำน้ำราคาหลายหมื่นขึ้นรถร้อนไปดำน้ำมั๊ยหล่ะ  บ้านเราไม่มี :P

คนบนเกาะที่นี่ มีลูกเยอะบ้านละไม่ต่ำกว่า 3-4 คน คงเป็นเพราะฝนตกมากกับข้อห้ามทางศาสนามั๊ง เลยทำให้คนมีลูกเยอะ (จะว่าไปแล้วส่วนใหนของฟิลิปปินส์ก็มีลูกเยอะทั้งนั้นแหละเนอะ)  ทีแรกก็กังวลแล้วจะเอาอะไรไปเลี้ยงกันนี่  ที่ใหนได้ พอนั่งรถไป มองเห็นข้างทางอุดมสมบูรณ์มาก มีทั้งข้าว ทั้งป่าไม้ กว้างใหญ่ไพศาล เออ...จะมีกี่คนก็มีเหอะ 555

ขอพูดถึง PICOP’S สถานที่ ที่พวกเราไปดูนกหน่อยค่ะ 
Paper Industries Corporation of the Philippines เป็นเหมือนแปลงสัมปทานตัดไม้ของรัฐบาล  นักอนุรักษ์ ไม่ควรเดินทางไปดูนกที่นี่ ไม่งั้นคงช้ำใจน่าดูชม 555 มีการทำไม้ สัมปทานตัดป่าไม้เป็นแปลงๆ  อย่างเป็นล่ำเป็นสัน  แล้วก็เอาไม้กากๆ มาปลูกแทน (ขอใช้คำวัยรุ่นหน่อย)  มี trip report ของฝรั่งบางคนเขียนเหน็บไว้ว่า ก็นกมันไม่มีที่ไปแล้วไงเลยต้องอยู่แต่หย่อมป่านี่แหละ  หมายถึงว่ารอบๆ โดนตัดเหี้ยนเตียนหมดแล้ว

วันแรกเดินไปเทรลหนึ่ง เหมือนเทรลรับน้องไม่มีผิด น้ำท่วมเทรล Zardo ต้องพาอ้อมขึ้นเนินเขา ในเทรล มีแต่โคลน วัดพื้นกัน 2-3 คน แล้วก็เดินไวมากๆ พอดีเราต้องไปแจมกับฝรั่งอีก 2 คน  ตา ฝรั่ง 2 คนนั่นเค้าเจาะจงดูนกเป็นตัวๆ ไป ส่วนพวกเราดูได้ทุกตัว วันแรกไม่ happy เลย
คิดในใจเหมือนกันว่า นี่เรามาดูนกหรือมาฝึกแรงเยอร์กันแน่ฟร่ะ

พอบ่ายๆ ไกด์ พาไปดูนกกะเต็น Sivery Kingfisher สงสัยจะเป็นบ่อประจำนะ เกาะนิ่งเลย เป็นอ่างเก็บน้ำของชาวบ้าน  นกอยู่ไกลมาก ก็เลยย่องไปแอบหลังเล้าหมู เผื่อนกตาลายจะได้มาเกาะเหน่งๆ  ระหว่างที่จะไปหลบหลังเล้าหมู ตกใจไม้ที่เอามารองพื้นเป็นเล้าหมูมากกมาย  ขนาดไม้หน้ากว้างซัก 40 นิ้วได้  อะไรจะใช้ไม้ได้สุรุ่ยสุร่ายขนาดนั้น อ่อ นอกจากจะตัดไม้กันเป็นเรื่องปกติ ที่นี่ยังเผาถ่านกันเป็นล่ำเป็นสันเลยหล่ะ เสียดายไม้เนาะ แต่ทำไงได้ เป็นวิถีชีวิตเค้านี่

หลังจากสะบักสะบอมกับเทรลรับน้อง พอตกเย็น ไกด์ Zardo พาพวกเราไปดูนกที่สนามบินเก่า
ส่วนใหญ่จะเป็นนกที่เห็นๆ ในบ้านเราค่ะ มีเป็ดตัวที่เป็น endemic ด้วย บินไกลมาก หยั่งกะเป็ดแดงไงงั้น เอาว่ะ endemic ก็ endemic แต่กระติ๊ดสีอิฐเนี่ย บ้านเราก็มีนะ

พอเดินไปซักพัก รู้สึกหลงรัก เทรลนี้ทันที ป่าสมบูรณ์มาก นกเยอะ แมลงก็เยอะ มีอะไรให้ดูตลอดทาง ไม่เบื่อเลย ยังคุยกันว่า เทรลแบบนี้พวกเราอยู่ได้ทั้งวันเลย

แต่จริงๆ แล้วอยู่กันได้ไม่นานตามที่เราต้องการ เพราะเป็นพื้นที่สัมปทาน แถมข้างในยังมีการลักลอบร่อนทอง หรือแร่อะไรซักอย่างที่ผิดกฎหมายมั่ง  ไกด์บอกว่าอยู่ได้ไม่เกิน 3 โมงเย็นเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของพวกเรา  แต่พวกเราขอต่อรอง ซัก 4 โมงก็แล้วกัน
เวลาไปเดินดูนกทาง Zardo ก็จะมีทีมงานอีก 2 คน คอยปิดท้ายแถวพวกเรา แบบว่าบางคนเดินช้า พอเทรลมีทางแยกก็จะกลัวหลง แล้วส่วนใหญ่เราก็จะเดินปิดท้ายตลอดๆ รู้สึกว่าเดินตามไกด์แล้ว ไม่ค่อยเจอนกเลย พอเดินเองแล้วนกดี๊..ดี

เทรลนี้เดินแล้วมีอะไรให้ถ่ายเยอะเลย พอไม่แบกเลนส์ถ่ายนกไปนี่ มันเจอนกเหน่งๆ ใกล้ๆ หลายรอบเลย รู้งี้ แบกขึ้นมาด้วยดีกว่า แต่ก็เข็ดเทรลเละๆ เมื่อวานไง เลยก้มหน้าก้มตาถ่ายแมลงต่อไป ถ่ายมาก็ไม่รู้หรอกว่าชื่ออะไร สีสวยก็เลยถ่ายมา

รุ่งขึ้นอีกวัน Zardo พาไปซ้ำเทรลเดิม กับวันแรก เพราะเรายังไม่เห็น อีกหลายตัว แต่วันนี้รู้สึกเดินสบายๆ กว่าวันแรกเยอะเลย ไม่ต้องรีบเดินตามเหมือนไปหาควายหายเหมือนวันแรก อีกอย่างเทรลไม่เละเท่าวันแรกเพราะฝนหยุดตกแล้ว ค่อยมีเวลาดูนก ดูหนูหน่อย

ระหว่างทางกลับจากดูนกตอนเย็น  ถ่ายรูปเด็กๆ แถวนั้นมาด้วย น่ารักดี
ข้อสังเกตอย่างหนึ่งคือ เด็กที่มีบ้านอยู่ในป่าลึกๆ เสาไฟฟ้าไม่ถึงเวลาได้ยินเสียงรถของพวกเราจะวิ่งออกมาดูที่หน้าต่างกันทุกบ้าน  ถ้าเด็กในเมืองเข้ามาหน่อยก็จะไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่ก็มองแล้วโบกมือให้เหมือนกันค่ะ

คืนก่อนวันสุดท้าย เราพาไกด์ไปเลี้ยงขอบคุณ ที่ร้านอาหาร ร้านนี้ไกด์เลือกเอง คิดว่าเป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดของ Bislig แล้วมั่ง สามารถมองเห็นวิวในเมืองได้ แต่ราคากับรสชาติอาหารธรรมดาๆ  อาหารทะเลไม่เยอะ เพราะเมืองนี่ ไม่ได้เป็นเมืองประมงชายฝั่ง คนเมืองนี้ชอบกินกินย่าง ถึงขนาดมีซอยที่ขายไก่ย่าง ควันตลบไปทั้งซอยเลย คิดว่าไฟใหม้ซะอีก   อาหารที่เกาะพาลาวัน อร่อยกว่าเยอะเลยค่ะ คนฟิลิปปินส์นี่ กินข้าวสวยกันเก่งจริงๆ กินข้าวกับผัดหมี่ที่คล้ายๆ หมี่ซั่ว บ้านเราเลยค่ะ  มิน่า ตอนยังเป็นสาวจะสวย ตาคม  พอแต่งงานมีลูกแล้ว หน้าก็ยังคมขำ แต่มีพุงเกือบทุกคนเลย

เทรลนี้ เจอลิงด้วย ไม่ทราบว่าชนิดใหน ไกลมากๆ