ถ้ำพระขยางค์ ณ วันนี้

หลังจากผมมาทำงานที่ระนองมาเกือบ ๒๐ ปี ถ้ำแห่งนี้นับเป็นสถานที่สำคัญของผมที่ต้องมาเยือนอย่างสม่ำเสมอ แม้ในสองสามปีหลังจะแวะเวียนมาน้อยลงบ้างก็ตาม สิ่งที่ผมเคยเห็นคือ บรรดาค้างคาวจำนวนมากที่อาศัยหลับนอนในถ้ำอันมืดมิดในตอนกลางวัน แล้วค่อยออกหากินเมื่อตะวันลับฟ้า เมื่อก่อนนี้ในถ้ำจะถูกเปิดไฟเมื่อมีผู้มาเยือนเท่านั้น เมื่อผู้มาเยือนกลับไปก็ปิดไฟคืนความมืดให้ค้างคาวและบรรดาสัตว์ที่อาศัยในถ้ำทั้งหลาย เมื่อถึงเวลาเย็นๆค้างคาวก็เริ่มบินในถ้ำแต่ยังไม่ออกมาสู่แสงสว่างภายนอก จนภายนอกมืดลงจึงออกมา ผมเองก็เคยแกล้งค้างคาวโดยการฉายไฟส่องตอนมันกำลังจะบินออกจากถ้ำ เมื่อเจอแสงไฟมันก็บินวกกลับเข้าไปข้างใน แต่..เมื่อคืนนี้เวลากว่าสองทุ่มแล้ว ไฟในถ้ำกลับเปิดสว่างไสวตลอดเวลาผมเลยสงสัยว่าวิถีชีวิตค้างคาวได้ถูกเปลี่ยนไปหรือนี่ เพราะมันจะบินฝ่าแสงสว่างออกมาก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องง่ายนัก สัตว์ถ้ำอื่นๆที่ไม่ชอบแสงสว่างก็จะถูกรบกวนไปด้วย จริงอยู่ว่าสัตว์เหล่านี้อาจไม่มีใครให้ความสำคัญนักหากเทียบกับคำว่า การท่องเที่ยว แต่การเปิดไฟทิ้งไว้ตลอดเวลานั้นหมายถึงการใช้พลังงานที่ต้องมีค่าใช้จ่ายที่เป็นตัวเงินและการผลาญทรัพยากรธรรมชาติทางตรงและอ้อม หน่วยงานที่รับผิดชอบมีงบประมาณเหลือเฟือสำหรับค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยที่ไม่ควรเสียอย่างนี้น่ะหรือ เมื่อมองย้อนกลับสู่การท่องเที่ยว..แน่นอนที่เขามักใช้ว่า การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ แต่การกระทำที่แท้จริงนั้นกลับเป็นการรบกวนธรรมชาติจนหลุดพ้นจากคำว่าอนุรักษ์แล้ว แม้ว่าการเปิดไฟตลอดเวลาไม่ทำให้ค้างคาวหรือสัตว์ถ้ำอื่นๆตายในทันที แต่มันต้องเปลี่ยนวิถี หาที่อยู่ใหม่เพื่อหาทางออกที่ไร้แสงรบกวน แค่นี้ระบบในถ้ำก็เปลี่ยนไปแล้ว

ผมคงไม่ขออะไรมากหรอกครับ ขอแต่เมื่อไม่มีนักท่องเที่ยวที่ต้องเปิดไฟให้(สำหรับผมไม่ต้องใช้ไฟประจำถ้ำ)ก็ปิดเสียเถิดครับ โดยเฉพาะตอนกลางคืน ขอความมืดให้สัตว์ที่อาศัยที่นี่มายาวนานแล้วได้มีวิถีชีวิตเป็นของตัวเองด้วย แล้วยังเป็นการประหยัดพลังงาน และงบประมาณของท่านเพอื่นำไปใช้ในทางที่จำเป็น เหมาะสม และคุ้มค่ากว่านี้อีกมากครั

ฝากเรียนถึง อบต.ลำเลียง จ.ระนอง ด้วยนะครับ

Comments

ความเห็นที่ 1

ใคร มาทำอะไรเนี่ย
1-img_0402.jpg

ความเห็นที่ 2

อ่อ..ถ่ายตัวนี้นี่เอง
1-img_0450.jpg

ความเห็นที่ 3

น้องแอมฟิฯ

กบน้ำเค็ม
คางคก
อึ่งหลังจุด
1-img_0404.jpg 1-img_0422.jpg 1-img_0466.jpg

ความเห็นที่ 4

เรื่อยๆ
ทำอะไร ถ่ายงูพังกา ปลาตีน ปูแสม อะไรเอ่ย.. อ่อ..หลับนก

ความเห็นที่ 5

พืช..

Globba ranongensis ใน type locality

กล้วยไม้อะไรแล้วหว่า

ชาฤาษี

น้องเอื้อ

และจบข่าว

ขออภัยที่ไม่ค่อยมีข้อความอะไร เนื่องจากรู้สึกว่าเวบรวนๆ จึงโพสให้เสร็จๆไปก่อนครับ
1-img_0424.jpg 1-img_0444.jpg 1-img_0439.jpg 1-img_0448.jpg 1-img_0472.jpg

ความเห็นที่ 5.1

1- img-0444.jpg  http://www.siamensis.org/species_index#2565--Species: Dorypteris sp. เฟินใบตำลึง

ความเห็นที่ 5.1.1

มันมีกล้วยไม้ด้วย ผมก็ดันลืมชื่อซะแล้ว ที่เห็นดอกตูมๆน่ะขอรับ

ขอบคุณสำหรับชื่อเฟิร์นครับ ^^

ความเห็นที่ 6

แล้วค้างคาวกับงูในถ้ำเป็นยังไงกันบ้างครับ? เจอไหม?

ความเห็นที่ 7

เห็นด้วยครับ ควรปิดไฟเมื่อไม่มีคนเข้ามาชมหรือให้มีเวลาปิดเปิดไฟที่ชัดเจน เช่น กำหนดปิดไฟเวลา 20.00 น.เป็นต้น ภาพอะไรเอ่ย ผมมองดูตั้งนาน นึกว่าให้ดูต้นไม้ ถ้าไม่มีภาพเฉลยนี่งงเลย 

ความเห็นที่ 8

ควรปิดไม่เกินหกโมงเย็นครับ เพราะใกล้เวลาค้างคาวออกหากิน ปกติก็ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาหลังจากนั้นด้วยครับ

ความเห็นที่ 8.1

ใช่ครับอาจารย์น๊อต ควรปิดก่อนเขาออกมาหากินในประจำวัน ที่ผมบอกเป็นแค่ตัวอย่าง แล้วผู้บริหารท้องถิ่นว่าอย่างไรบ้างครับ