นกบ้านๆ

เมื่อวานเย๊นจะเอากล้อง Canon 5D Mark III ไปอัพเกรด Firmware ก็เลยถือโอกาสขนเอาเลนส์ประดามีทั้งหลายไปให้ทางร้านล้างทำความสะอาดในคราวเดียวกันเลย (ร้าน Fotofile บริการล้างกล้องและเลนส์ Canon และ Nikon ให้ลูกค้าฟรี) แต่ปรากฏว่าไม่ต้องอัพเกรด Firmware ของ 5D Mark III เพราะ Firmware Version 1.2.1 เป็น Version ล่าสุดแล้ว เพราะเกิดการเข้าใจคลาดเคลื่อนเล็กน้อย Version 2.0.3 นั้น เป็น Version ล่าสุดของ Canon EOS 7D... เมื่อสักครู่ก็เลยเอากล้องมาลองซุ่มถ่ายภาพนกใหม่ คราวนี้กลายเป็นว่าได้ภาพ นกกินปลีอกเหลือง ตัวจริงเสียงจริง ซึ่งเป็นนกกินอกเหลือง เพศผู้

Comments

ความเห็นที่ 1

คราวนี้ผมคาดว่าน่าจะรู้สาเหตุแล้วว่าทำไมบางครั้งเวลาโพสต์รูปแล้วรูปขึ้นไม่เต็ม ทั้งที่ขนาดไฟล์ก็ไม่เกิน 350 KB สาเหตุคือ แม้ขนาดไฟล์จะไม่เกิน 350 KB แต่ขนาดกว้างxยาว ของภาพเกิน 800x600 Pixel คราวนี้ผมลอง Crop ภาพ และ Resize ภาพของนกกางเขนบ้านและนกกินปลีคอสีน้ำตาลมาให้ดูอีกครั้งเพื่อทดสอบครับ
นกกางเขนบ้าน-A นกกางเขนบ้าน-B นกกางเขนบ้าน-C นกกินปลีคอสีน้ำตาล-A นกกินปลีคอสีน้ำตาล-B

ความเห็นที่ 2

ลองโพสต์ดูใหม่ แต่ก็ยังมีอาการเหมือนเดิม ก็เลย ม่ายข้าวจายยย.....

ความเห็นที่ 3

ส่วนใหญ่เวลาโพสต์รูปผมจะใช้รีไซส์ 8oox600 ครับ แต่จะไม่ค่อย Crop แล้วก็แปะส่วนใหญ่ผ่านตลอดนะครับ ตอนนี้คุณGatsby ได้บ้านๆมากี่ตัวแล้วครับ ผมได้เพิ่มมาอีกสองสามตัวครับ ยังขาดนิดหน่อย คือเจ้าตัวที่ได้ยินแต่เสียงแล้วไม่เห็นตัว เล่นเกาะอยู่ในพุ่มใบของต้นไม้สงสัยต้องเดินไปส่องใต้ต้นซะแล้ว

ความเห็นที่ 3.1

เหตุที่ต้อง Crop รูปเพราะกล้อง Canon EOS 5D Mark III มีความละเอียดภาพยี่สิบกว่าล้านพิกเซล และเป็นกล้ออง Full Frame ภาพต้นฉบับที่ถ่ายมาขนาดไฟล์ประมาณ 4 MB กว่าๆ จึงต้อง Crop ภาพ ความจริงก็ตั้งให้ขนาดไฟล์ภาพต้นฉบับเล็กลงได้ โดยเซ็ตความละเอียดภาพให้ต่ำลง แต่ผมไม่อยากเซ็ตความละเอียดภาพกลับไปกลับมา ผมชอบเซ็ตความละเอียดภาพไว้สูงสุด แล้ว Crop ภาพเอาทีหลังมากกว่า เพราะหลายครั้งเวลาถ่ายภาพ จะมีลูกหลงนอกจุดโฟกัสติดมาในภาพโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งจะสามารถขยายภาพให้เห็นรายละเอียดของลูกหลงนั้นได้ชัดในภายหลังได้ ภาพนกกางเขนบ้านที่ถ่ายมานั้น แม้แต่เซ็ตขอบในการ Crop จนติดตัวนกกางเขนแล้ว ขนาดความกว้างxยาว ของภาพยังเกิน 800x600 อยู่เลย แต่ขนาดของไฟล์ภาพไม่เกิน 350 KB จึงต้องใช้การ Resize ภาพช่วยอีก ภาพนกกางเขนบ้าน และนกกินปลีคอสีน้ำตาล ที่ผมลอง Crop และ Resize แล้วโพสต์ใหม่นั้น แต่ละภาพมีขนาดไฟล์ 100 กว่า MB และมีขนาดความกว้างxยาว ประะมาณ 700 กว่าๆx500 กว่าๆ พิกเซล แต่ทำไมโพสต์แล้วขึ้นไม่เต็มก็ไม่รู้....  สำหรับนกบ้านๆที่ถ่ายในช่วง 2-3 วันนี้ ก็มีเท่าที่ได้โพสต์แล้วนั่นแหละครับ แต่ยังมีเป้าหมายอีกหลายชนิดที่ยังไม่ได้ถ่าย เช่น นกเขา นกเอี้ยง (วันนี้ ก่อนที่จะถ่ายนกกินปลีอกเหลือง ก็มาร้องเลียนเสียงกันเองอยู่ 2-3 ตัว อยู่บนต้นไม้ใกล้ๆ แต่มองเห็นตัวไม่ถนัด) นกอีแพรด นกปรอด นกกาเหว่าที่ได้ยินเสียงทุกวัน แต่ยังไม่ได้ตามไปถ่ายภาพ ส่วนนกปรอดหน้านวล และนกกะปูด ไม่ได้เห็นมาหลายเดือนแล้ว... ผมมีรูปนกที่ถ่ายไว้ 6-7 ปีก่อน โดยถ่ายที่ไซต์งานที่หนองแขม แถวๆถนนพุทธมณฑลสาย 3 โดยถ่ายจากพื้นที่ติดหลังอาคารไซต์ออฟฟิส พื้นที่ขนาดไม่เกิน 6x6 ตารางเมตร และมีรั้วสังกะสีกั้นล้อมรอบ ภายในบริเวณมีต้นโสนใหญ่อยู่ตรงกลางสองต้น มีต้นโพธิ์ขนาดย่อมอยู่ด้านซ้ายอยู่หนึ่งต้น และมีต้นตะขบอยู่ด้านขวาอยู่หนึ่งต้น ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าพื้นที่เล็กๆอย่างนี้ จะมีนกต่างๆแวะเวียนมาหากินหนอนและแมลงร่วมสิบชนิด วันหลังจะค้นภาพมาโพสต์ให้ดูกันครับ

ความเห็นที่ 4

ผมเอาเจ้ากินปลีที่หน้าบ้านมาให้ดูนะครับ
กินปลีคอสีน้ำตาล กินปลีเหลือง

ความเห็นที่ 4.1

เป็นกิินปลีเพศผู้ทั้งคู่ สวยมากครับ... กินปลีอกเหลืองเพศผู้ของผม สีน้ำตาลที่อกยังไม่ค่อยเข้ม ไม่รู้ว่าอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวของการผลัดขนหรือเปล่าก็ไม่รู้

ความเห็นที่ 5

น่าจะเป็นช่วงเข้าสู่วัยหนุ่มเต็มตัวน่ะครับ ถ้าจำไม่ผิดเจ้ากินปลีไม่มีการเปลี่ยนชุดขนนะครับ

ความเห็นที่ 5.1

เมื่อวานวันอาทิตย์ ไปเดินหาซื้อหนังสือนกเมืองไทย ที่แผงหนังสือที่ตลาดนัดสวนจตุจักร ซึ่งความจริงผมมีอยู่หลายเล่มแล้ว แต่แพ็คลงลังแล้ว จำไม่ได้ว่าอยู่ลังไหน ผมขี้เกียจรื้อ เลยไปหาซื้อใหม่ ซึ่งก็ดีเหมือนกัน ทำให้ได้หนังสือ "คู่มือศึกษาธรรมชาติหมอบุญส่ง เลขะกุล นกเมืองไทย" ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2555 มาเล่มหนึ่ง ซึ่งในหนังสือเล่มนี้ ภาพชุดที่ 194 นกกินปลี 2 หน้า 427 นกรายการที่ 951 นกกินปลีอกเหลือง ระบุว่าตัวผู้มีการผลัดขนด้วยครับ

ความเห็นที่ 6

ขอบคุณครับ ได้ความรู้ใหม่อีกแล้ว

ความเห็นที่ 7

คราวนี้มาถึงตาเจ้านกเขา หรือนกเราก็ไม่รู้ เมื่อตอนเย็นสายัณห์ ตะวันจะลาลับฟ้า มีนกเขามาเกาะร้องกรุ๊กๆกรู๊ แต่ผู้เดียวอยู่บนหลังคา ผมเลยคว้ากล้องมาถ่ายภาพ พร้อมร่ายกาพย์เขียนกลอนไว้ให้ดว้ย

นกเขา-1 นกเขา-2 นกเขา-3 นกเขา-4 นกเขา-5 นกเขา-6

ความเห็นที่ 8

กลอนสำหรับเจ้านกเขาไร้คู่...  ยามสายัณห์ เย็นสะบาย พระพายพัด   ลมสะบัด ใบไม้ปลิว พลิ้วพลิ้วไหว    หมู่วิหค นกกา บินมาไกล   กลับรวงรัง หวังได้  พักกายนอน..  เจ้านกเขา ขันคู อยู่เดียวโดด   ยังเป็นโสด ไร้คู่ ตุนาหงัน   สิ้นหน้าฝน เข้าหน้าหนาว คงหนาวครัน   คงหนาวสั่น แต่ผู้เดียว เปลี่ยวเอกา..  จะมีใคร เล่าหนอ พอเข้าจิต   มาเป็นคู่ มิ่งมิตร เสน่หา   เหลียวทางไหน ก็ไร้คู่ เคียงกายา   อนิจจา เจ้านกเขา ของเราเอย...

ความเห็นที่ 9

อ่านแล้ว สงสารเจ้าเขาใหญ่

ความเห็นที่ 10

หรือว่าเจ้า ขันคู หาชู้ชื่น  ที่เคยรื่น ร่วมเรียง เคียงเขนย   แต่บัดนี้ แรมเลือน ไม่เหมือนเคย  เจ้าทรามเชย มาจรจาก พรากแรมไกล   เจ้ายังคง หลงวุ่น เฝ้าครุุ่นคิด  ว่าดวงจิต มาแค้นเคือง เรื่องไฉน   จึงหลีกลี้ หนีหน้า แรมลาไป  หรือว่าใคร มาลอบชิง มิ่งขวัญจร   เห็นหัวอก นกเขา เจ้าเศร้าหมอง  ย้อนมาตรอง หัวอกเรา ก็เศร้าเหลือ  โอ้อกเขา อกเรา ถึงเศร้าเครือ  แต่ยังเหลือ ความหวัง ตั้งตาคอย...

ความเห็นที่ 11

อ่านแล้วเลยมีคำถามว่าเจ้าตัวนี้ ชายหรือหญิงครับในคู่มือไม่มีบอกครับ

ความเห็นที่ 11.1

ในหนังสือนกเมืองไทย ที่ผมเพิ่งซื้อมา มีรายละเอียดนกเขาอยู่หกชนิด คืด นกเขาพม่า นกเขาใหญ่ นกเขาไฟ นกเขาชวา นกเขาลายใหญ่ และ นกเขาลายเล็ก นกเขาสี่รายการหลัง มีรูประบุแยกเพศผู้เพศเมีย แต่นกเขาพม่า และนกเขาใหญ่ ไม่มีรูปแยกเพศผู้และเพศเมีย หรือว่านกเขาทั้งสองชนิดนี้ ทั้งเพศผู้และเพศเมียจะมีลักษณะเหมือนกัน แต่ที่ผมจัดฉากให้เป็นตัวผู้ เพราะว่าคนไทยส่วนใหญ่ เวลาเห็นนกเขาขันคู ก็จะนึกว่านกเขาตัวผู้กำลังขันคูหาคู่ตัวเมีย เหมือนในเพลง นกเขาคูรัก นั่นแหละครับ

ความเห็นที่ 12

ประเด็นที่ผมว่า รูปหลายๆรูปที่ผมโพสต์แล้วขึ้นไม่เต็มรูปนั้น เมื่อวานออกไปธุระนอกบ้าน เลยลองเปิดกระทู้ของผมและของคุณตุ้ม ที่ว่ารูปที่ผมโพสต์แล้วขึ้นไม่เต็มรูปดู ด้วยแท็ปเล็ตขนาดหน้าจอ 10 นิ้ว ปรากฏว่ารูปที่ผมว่าขึ้นไม่เต็มรูปเหล่านั้น ผมก็เห็นขึ้นเต็มรูปทุกรูป ก็เลยคิดว่าหรือจะเป็นเพราะโน้ตบุ๊คที่ผมใช้อยู่เป็นประจำที่บ้าน แต่ถ้าเป็นเช่นนั้น ทำไมรูปที่คนอื่นโพสต์ผมจึงเห็นเต็มทุกรูป เป็นเฉพาะรูปที่ผมโพสต์ขึ้นเองเท่านั้น ก็เลยยังเป็นปัญหาที่ ม่ายข้าวจ๊ายยย อยู่ต่อไป...

ความเห็นที่ 13

คราวนี้ปัญหาเก่าหมดไป ความสงสัยใหม่ตามมา... ผมมาคิดดูว่าเมื่อผมเปิดดูรูปที่ผมโพสต์แล้วคิดว่าขึ้นไม่เต็มในกระทู้ของผมและกระทู้ของคุณตุ้มด้วยแท็ปเล็ต แล้วเห็นรูปขึ้นเต็มทุกรูป ทำให้ผมคิดว่าสมาชิกท่านอื่นที่เปิดดูรูปดังกล่าวแล้วเห็นรูปขึ้นเต็มเป็นปกติ อาจจะสงสัยว่าอาการที่ว่ารูปขึ้นไม่เต็มนั้นมันเป็นอย่างไร ผมเลยคิดว่าจะจับภาพบนหน้าจอ (Screen Capture) ของรูปที่ขึ้นไม่เต็มมาโพสต์ให้ดู ผมจึงเข้าไปในกระทู้ของผม แล้วปรับเปอร์เซ็นต์การแสดงภาพบนหน้าจอเพื่อจะทำการจับภาพ โดยปรับเปอร์เซ็นต์จาก 100% ลงเป็น 50% แต่ยังไม่ทันได้จับภาพ ผมปรับเปอร์เซ็นต์กลับไปที่ 100% ปรากฏว่าอาการที่ว่ารูปขึ้นไม่เต็มกลับหายไป กลับมาเห็นรูปขึ้นเต็มเป็นปกติ ผมจึงเข้าไปในกระทู้ของคุณตุ้ม ดูรูปที่ผมโพสต์ ก็ยังมีอาการขึ้นไม่เต็มอยู่เหมือนเดิม ผมจึงลองปรับเปอร์เซ็นต์การแสดงภาพที่หน้าจอจาก 100% ลงเป็น 50% ทำกลับไปกลับมาสองสามครั้ง อาการรูปขึ้นไม่เต็มก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม ผมจึงทำการจับภาพ (Screen Capture) รูปที่ขึ้นไม่เต็มนั้นไว้ เสร็จแล้วผมจึงลองคลิกปุ่ม Refresh เว็ปเพจดู ปรากฏว่าอาการรูปขึ้นไม่เต็มก็หายไป ซึ่งตอนที่เกิดปัญหาในตอนแรก ผมคิดว่าเกิดปัญหาในระหว่างการอัพโหลดภาพ แต่เมื่อผมมาเปิดดูด้วยแท็ปเล็ตแล้วเห็นรูปขึ้นเต็ม จึงรู้ว่าไม่ใช่ปัญหาที่เกิดจากการอัพโหลดภาพ ตอนนี้ผมเลยมาคิดว่า หรือจะเป็นเพราะว่า Buffer ใน Memory ที่จัดสรรไว้สำหรับการประมวลผลและแสดงผลภาพบนหน้าจออาจจะเต็มหรือเหลือพื้นที่น้อย จึงทำให้เกิดปัญหารูปขึ้นไม่เต็ม แต่ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็น่าจะเป็นแค่ชั่วครั้งชั่วคราว แต่ก่อนหน้านี้ปัญหารูปขึ้นไม่เต็ม เป็นเหมือนกันทุกครั้งที่เปิดดูรูปดังกล่าว แต่ว่าตอนนี้ก็โล่งใจที่ปัญหาดังกล่าวหมดไปแล้ว ดีนะ ที่จับภาพหน้าจอตอนที่รูปขึ้นไม่เต็มไว้เป็นหลักฐานมาโพสต์ให้ดูได้ก่อนที่ปัญหาจะหมดไป แต่ก็ยังมีข้อสงสัยที่ยัง ม่ายข้าวจ๊ายยย อยู่ต่อไป...
รูปขึ้นไม่เต็ม-1 รูปขึ้นไม่เต็ม-2 รูปขึ้นไม่เต็ม-3 รูปขึ้นไม่เต็ม-4 รูปขึ้นไม่เต็ม-5 รูปขึ้นไม่เต็ม-6 รูปขึ้นไม่เต็ม-7 รูปขึ้นไม่เต็ม-8 รูปขึ้นไม่เต็ม-9

ความเห็นที่ 13.1

มันเป็นที่ระบบของอินเตอร์เน็ตหรือเปล่าครับ ของผมพักหลังๆก็เป็นๆหายๆครับ พอดีเห็นปรอดหน้านวล ของคุณ Gatsby เลยเอาปรอดอีกตัวมาให้ดู ถ่ายเมื่อวันที่ 23 ที่ผ่านมา ไปดูบ้าน ที่หนองรี ถ่ายได้แต่ไม่สวย เลยเอามาให้ดูเล่นๆครับ
ปรอดเหลืองหัวจุก กับรังนกกระจาบริมถนน ซึ่งผมไม่ได้เห็นมานานแล้ว นกสร้างเองไม่ได้มีใครเอาไปผูก

ความเห็นที่ 13.1.1

1) รูปนกปรอดเหลืองหัวจุก เหมือนจะ Over Exposure เพราะมีแสงเข้ากระทบ Sensor ของกล้องมากเกินไป เพราะถ่ายในที่มีแสงแดดจัดและมุมกล้องย้อนแสงนิดๆ ต้องปรับลด Exposure ชดเชย เพื่อให้แสงเข้ากระทบ Sensor น้อยลง โดยการเพิ่มความเร็วชัตเตอร์ (ตัวเลขชัตเตอร์สปีดเพิ่มขึ้น) หรือลดขนาดรูรับแสง (Aperture) ลง (คือเพิ่มตัวเลข f-Stop) หรือลดความไวแสงของตัว Sensor ลง (ลดตัวเลข ISO) ก็จะช่วยได้ครับ... 2) ในหนังสือนกเมืองไทยของคุณหมอบุญส่งฯ มีนกกระจาบอยู่สามชนิด คือนกกระจาบอกลาย นกกระจาบธรรมดา และนกกระจาบทอง ซึ่งในหนังสือมีรูปรังของนกกระจาบแต่ละชนิดประกอบอยู่ด้วย ซึ่งดูจากในรูปแล้ว เหมือนรังของนกกระจาบธรรมดา (ในหนังสือมีรูปรังของนกกระจาบธรรมดาอยู่สองแบบ ซึ่งตามในรูป ผมเดาว่าน่าจะเป็นรังของนกกระจาบธรรมดาตัวผู้)

ความเห็นที่ 13.1.1.1

มาไวไปไวไม่มีเวลาปรับอะไรเลย ภาพนี้คร๊อปแล้วปรับแสงน่ะครับ ส่วนรังนกกระจาบรอนานมากไม่มาซักที เลยได้แค่นี้แหละครับ ยังได้นกอีกสองสามตัว แต่ยังหาข้อมูลไม่เจอเลยยังไม่ได้แปะให้ดูครับ

ความเห็นที่ 13.1.1.1.1

ต้นไม้ที่นกกระจาบทำรังอยู่คือต้นอะไรครับ ผมเคยเห็นแต่นกกระจาบธรรมดาทำรังอยู่บนต้นตาลสูงๆครับ ผมว่านกกระจาบชอบทำรังอยู่บนต้นตาลนะครับ ตอนผมเด็กๆอยู่ต่างจังหวัด อยู่ในตัวเมือง ในซอยเดียวกันแทบทุกบ้านจะมีต้นมะพร้าวอยู่บ้านละสี่ห้าต้น หลายต้นก็สูงๆ แต่ไม่เห็นมีนกกระจาบมาทำรังอยู่ แต่มีบ้านใกล้ๆกันหลังหนึ่ง มีต้นตาลอยู่ต้นหนึ่งซึ่งก็ไม่สูงมากนัก สูงกว่าหลังคาบ้านไม้ใต้ถุนสูงอยู่หน่อยหนึ่ง แต่มีนกกระจาบมาทำรังอยู่หลายรัง ต้องรอให้มีพายุฝนแรงๆมา รังนกกระจาบจึงหล่นมาให้เก็บเอาไปเล่นได้ เมื่อประมาณปี 41-42 ไปคุมงานก่อสร้างที่ต่างจังหวัด ขับรถผ่านจากกำแพงเพชรมานครสวรรค์ เห็นร้านริมทางที่ขายกล้วยไข่กันเยอะๆ มีคนเอารังนกกระจาบมาขายในร้านด้วย มองไปข้างทางตามท้องนา มีต้นตาลสูงๆ มีนกกระจาบมาทำรังอยู่มากพอสมควร ตอนนี้ไม่ได้ผ่านไปนานแล้ว ไม่รู้ว่ายังมีรังนกกระจาบอยู่เยอะเหมือนเดิม หรือถูกชาวบ้านเก็บเอามาขายกันหมดแล้ว

ความเห็นที่ 13.1.1.1.1.1

น่าจะเป็นต้นมะขามป้อมนะครับ

ความเห็นที่ 13.1.1.1.1.1.1

ขอบคุณครับคุณตุ้ม  ลูกดกดีจังเลย..

ความเห็นที่ 13.1.1.1.1.1.1.1

อ่านข่าวในหนังสือพิมพ์ออนไลน์เมื่อวานซืน บอกว่าเป็นผลไม้พื้นเมืองของไทยที่มีประโยชน์ แต่กำลังใกล้จะสูญพันธุ์

ความเห็นที่ 13.1.1.1.1.1.1.1.1

เป็นผลไม้สารพัดประโยชน์ครับ คนสมัยก่อนนิยมนำติดตัวไปเวลาเดินป่าแก้กระหายน้ำ (ผมก็ชอบทานครับ)และยังนำมาทำเป็นยาแก้ได้อีกหลายโรคครับ

ความเห็นที่ 13.1.1.1.1.1.1.1.1.1

http://www.greenerald.com/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1/ เอามาฝากครับ ประโยนช์ของมะขามป้อม ขอบคุณเว็ปตามข้างบนครับ

ความเห็นที่ 13.1.1.1.1.1.1.1.1.1.1

ขอบคุณครับคุณตุ้ม เกิดมา เคยเห็นเคยกินแต่ลูกมะขามป้อม ไม่เคยเห็นต้นมะขามป้อมด้วยตาตนเองเลย คราวหน้าถ้าคุณตุ้มผ่านไปแถวนั้นอีก กรุณาช่วยถ่ายภาพต้นมะขามป้อมเต็มทั้งต้นชัดๆ มาให้ดูหน่อยนะครับ... ผมไปทำงานที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ มีลูกมะขามป้อมที่ส่งมาจากประเทศอินเดียมาขายในซุปเปอร์มาร์เกต ลูกใหญ่มาก ขนาดเท่าลูกปิงปอง เขาติดป้ายชื่อเป็นภาษาอินเดียด้วยตัวอักษรอังกฤษว่า "Amla"

ความเห็นที่ 13.1.1.1.1.1.1.1.1.1.1.1

ได้ครับ เดี๋ยวผมไปบ้านที่หนองรี วันไหนจะถ่ายภาพมาให้ชมนะครับ ผมยังคิดว่าจะไปขอซื้อมากินเลยครับ ยิ่งได้ต้นยิ่งดี 

ความเห็นที่ 14

รูปนกบ้านๆที่ถ่ายชุดก่อนนี้ ถ่ายด้วยกล้อง Canon EOS 5D Mark III + เลนส์ Canon EF 180mm Macro/f3.5L + Canon Extender EF 1.4x II โดยใช้ Monopod ช่วย คราวนี้ผมเลยลองเอาเจ้า EOS 5D Mark III มาใช้กับเลนส์ Canon EF 70-200mm/f2.8L IS II USM + Canon Extender EF 1.4x II โดยใช้ Tripod ช่วย เพราะตัวเลนส์ใหญ่กว่า หนักกว่า Monopod เอาไม่อยู่ ได้ภาพนกปรอดหน้านวลคู่หนึ่ง ที่ก่อนหน้านี้บอกว่าไม่ได้เห็นมานาน แต่ความจริงก็ยังวนเวียนอยู่แถวๆนี้แหละ แต่ผมไม่ได้สังเกตหาดูเองเท่านั้น กับได้ภาพนกเขาชวาและกระรอกท้องขาวพ่วงมาเป็นของแถม (ความจริงตั้งใจว่าจะตั้งกล้องรอถ่ายเจ้ากระรอกแดง ที่เห็นบนต้นไม้ใกล้ๆบ้านเมื่อสองสามวันก่อน แต่ว่าวันนั้นคว้ากล้องมาไม่ทัน วันนี้เจ้ากระรอกแดงไม่โผล่มาแต่เจ้ากระรอกท้องขาวโผล่มาแทน คราวหน้าถ้าเห็นตัวจะๆ จังหวะเหมาะๆ จะถ่ายภาพเจ้ากระรอกแดงมาให้ดูครับ)
นกปรอดหน้านวล-1 นกปรอดหน้านวล-2 นกปรอดหน้านวล-3 นกปรอดหน้านวล-4 นกเขาชวา-1 นกเขาชวา-2 นกเขาชวา-3 กระรอกท้องขาว

ความเห็นที่ 15

วันนี้เอา 5D Mark III มาลองกับเลนส์ 180 Macro แต่ใช้ Tripod แทน Monopod เพราะคราวที่แล้วใช้ Monopod แล้ว กล้องยังมีการเคลื่อนไหวไปทางซ้ายขวาอยู่เล็กน้อย และเลนส์ 180 Macro ตัวนี้ไม่มีตัวป้องกันภาพสั่นไหว (Image Stabilizer-IS) ด้วย จึงลองใช้ Tripod แทน เพื่อเปรียบเทียบคุณภาพของภาพถ่ายว่าจะแตกต่างกันอย่างไร ตั้งกล้องอยู่พักใหญ่ ไม่มีนกแปลกใหม่อะไรมาให้ถ่าย มีแต่นกเขาใหญ่สองตัวมาเกาะบนหลังคา เจ้าตัวบนน่าจะเป็นตัวเดิมเจ้าของกลอนนกเขาไร้คู่ ส่วนตัวล่างหน้าตาพริ้มเพราเหมือนจะเป็นตัวเมีย ไม่รู้ว่าเป็นคู่กันหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นคู่กันทำไมถึงแยกกันนอน เพราะสักพักเจ้าตัวบนก็บินไปหาที่นอนที่อื่น ส่วนตัวล่าง รู้สึกว่าจะเป็นนกเขาที่เป็นนกเรา เพราะมาอาศัยหลบนอนใต้พุ่มใบต้นกรรณิการ์ที่ปลูกอยู่ในลานกลางบ้านอยู่เป็นประจำทุกวัน

นกเขาสองตัว นกเขาตัวบน นกเขาตัวล่าง-1 นกเขาตัวล่าง-2 นกเขาตัวล่าง-3 นกเขาตัวล่าง-4

ความเห็นที่ 16

ต้องขอประทานอภัย ที่เมื่อวานบอกว่าจะใช้เลนส์ 180 Macro กับ Tripod ดู โดยถ่ายภาพนกเขาใหญ่สองตัวมาให้ดูแล้วบอกว่าถ่ายโดยใช้เลนส์ 180 Macro บน Tripod เมื่อโพสต์รูปแล้ว มาดูรูปนกเขาใหญ่นั้นอีกที ก็นึกแปลกใจว่าเอ๊ะทำไมช่วงความคมชัด (Depth of Field : DoF) จึงกว้างกว่าเลนส์ Macro ทั่วไป จึงกลับมาดูที่กล้องกับเลนส์อีกที จึงรู้ว่ายังถ่ายด้วยเลนส์ 70-200mm อยู่เลย เพราะลืมเปลี่ยนเลนส์อย่างที่ได้ตั้งใจไว้ วันนี้จึงลอง ใช้เลนส์ 180 Macro กับ Tripod ดูใหม่ เจอนกเอี้ยงหงอนอยู่ตัวหนึ่ง แต่เกาะอยู่ค่อนข้างไกล และใช้นิ้วมือกดปุ่มชัตเตอร์เวลาถ่ายภาพ รูปที่ออกมาจึงเบลอๆอยู่ แม้แต่เมื่อมองดูภาพที่จะถ่ายแบบ Live View บนมอนิเตอร์ โดยตั้งอัตราขยายเป็น 10x แม้มือไม่ได้สัมผัสตัวกล้องหรือขาตั้งกล้อง เมื่อมีลมพัด ภาพบนมอนิเตอร์ยังสั่นๆอยู่เลย สงสัยต้องใช้ขาตั้งกล้องที่ขาใหญ่แข็งแรงและหนักกว่านี้ และใช้ Remote Switch หรือ Remote Control ช่วยเวลาถ่ายภาพ

นกเอี้ยงหงอน-1 นกเอี้ยงหงอน-2

ความเห็นที่ 17

วันนี้ผมลองเอากล้อง Canon EOS 500D ซึ่งเป็นกล้อง Sub-Frame หรือที่น้องๆที่ร้าน Fotofle ชอบเรียกว่ากล้องตัวคูณ เพราะใช้ Sensor แบบ APS-C ที่มีความละเอียดภาพสูงสุด 15 ล้านพิกเซล ซึ่งกล้องตัวคูณของ Canon จะมีอัตราตัวคูณเท่ากับ 1.6 เท่า เมื่อเทียบกับกล้อง Full Frame (กล้องตัวคูณของ Sony จะมีอัตราตัวคูณท่ากับ 1.5 เท่า) ดังนั้นเมื่อใช้เลนส์กับกล้องตัวคูณของ Canon จะทำให้ได้กำไรทางยาวโฟกัสเพิ่มเป็น 1.6 เท่าของทางยาวโฟกัสปกติของเลนส์ ซึ่งวันนี้ผมใช้เลนส์ 70-200mm + Extender 1.4x กับกล้อง EOS 500D ซึ่งจะทำให้ทางยาวโฟกัสสูงสุดของเลนส์เพิ่มเป็น 1.6x1.4x200 = 448 mm โดยถ่ายภาพนกพิราบซึ่งเกาะอยู่ไกลพอสมควร แล้วเปลี่ยนบอดี้กล้องเป็น 5D Mark III ซึ่งเป็นกล้อง Full Frame ที่มีความละเอียดภาพสูงสุด 22 ล้านพิกเซล โดยเลนส์และ Tripod ยังอยู่ในตำแหน่งเดิม ซึ่งเมื่อใช้บอดี้ของ 5D Mark III แล้ว ทางยาวโฟกัสสูงสุดจะเป็นแค่ 1.4x200 = 280 mm เมื่อเปรียบเทียบคุณภาพของภาพจากบอดี้ของกล้องทั้งสอง โดยการ Crop ภาพจากไฟล์ภาพต้นฉบับด้วยพื้นที่การ Crop เท่ากันคือ 700x500 พิกเซลแล้ว แม้ว่าภาพจากกล้อง 500D จะได้กำไรทางยาวโฟกัสเพิ่มขึ้น คือซูมได้ใกล้มากขึ้น แต่ความคมชัดสู้กล้อง 5D Mark III ไม่ได้
นกพิราบ-EOS 500D นกพิราบ-EOS 5D Mark III

ความเห็นที่ 18

เอาภาพนกที่กำลังแอคชั่น มาให้ดูกันเล่นๆครับ
พิราบร่อน กระจอกรำ เขาคารวะ

ความเห็นที่ 19

เลนส์ 70-200+ TC อาจไม่อำนวยต่อการถ่ายภาพนก ตัวใหญ่ๆ ลองถ่ายมาให้เห็นนก และที่อยู่ อาศัยของนก ภาพก็จะออกมาดูสวยงาม ดูไม่เบื่อค่ะ ถ้าถ่ายนกยักษ์ๆ  ดูแป๊ปเดียวก็เบื่อแล้ว :)

ความเห็นที่ 20


นอกจากผมจะสนใจถ่ายภาพ มด แมลง และสัตว์ตัวเล็กๆ แบบมาโครแล้ว ก็ยังสนใจถ่ายภาพนกด้วย ซึ่งหลายครั้งนกที่ต้องการถ่ายภาพก็อยู่ค่อนข้างไกล ทำให้มีความต้องการใช้เลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสสูงเหมือนกัน แต่เลนส์ทางยาวโฟกัสสูงและมีประสิทธิภาพสูง (L Seires ขอบแดง) ของ Canon แทบทั้งหมดจะเป็น Prime Lens คือ Fixed Focal Length Lens หรือที่เรียกกันว่าเลนส์ฟิกซ์ ซึ่งจะมีขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก (3-4 กิโลขึ้นไป) จะออกทริปถ่ายภาพกันที ก็ต้องหามเลนส์ (ไม่ใช่แบกเลนส์) กันไปเลยทีเดียว และราคาก็แพงมากด้วย (ราคา 2-3 แสนบาทขึ้นไป) ผมซึ่งเป็นเพียงตากล้องมือสมัครเล่น ไม่ใช่มืออาชีพที่สามารถหารายได้จากการถ่ายภาพมาชดเชยกับการลงทุนซื้อเลนส์ราคาสูงๆได้ จึงไม่ต้องการลงทุนในเลนส์ราคาสูงมาก ดังนั้นเกณฑ์ในการเลือกซื้อเลนส์ของผมคือ ต้องเป็นเลนส์ที่มีประสิทธิภาพสูง (L Series ขอบแดง) มีขนาดรูรับแสงสูงสุด f2.8 ขึ้นไป โดยเฉพาะถ้าเป็นเทคโนโลยีของชิ้นเลนส์แบบรุ่น II แล้วยิ่งดีมาก (เคยใช้เลนส์ขนาดรูรับแสงสูงสุด f4.0 และใช้เทคโนโลยีของชิ้นเลนส์แบบเดิมแล้วเทียบกับเลนส์ f2.8 II แล้ว จะเห็นความแตกต่างของความคมชัด อย่างเห็นได้ชัดเจนเลยทีเดียว) และต้องมีขนาดไม่ใหญ่และน้ำหนักไม่มากจนเกินไป ทำให้เลนส์ทางยาวโฟกัสสูงสุดที่ผมมีอยู่ในปัจจุบัน คือ Canon EF 70-200mm/f2.8L IS II USM (น้ำหนักเลนส์ประมาณ 1.5 กิโล เมื่อบวกกับบอดี้กล้องและอุปกรณ์อย่างอื่นแล้ว ก็พอจะกระเตงกันไปได้) ครั้นเมื่อผมต้องการจะเพิ่มความยาวโฟกัสของเลนส์ ก่อนหน้านี้ เมื่อตอนต้นปี ก่อนที่ผมจะซื้อเลนส์ Canon EF 70-200mm ผมก็เคยเล็งๆและทดลองใช้เลนส์ Canon EF 100-400mm/f4.5-5.6L IS USM (เลนส์ที่คุณตุ้ม ปรารภว่าอยากจะได้) ที่ร้านโฟโต้ไฟล์อยู่เหมือนกัน แต่ติดอยู่ที่ว่า ถึงแม้จะเป็น เลนส์ L Series แต่มีขนาดรูรับแสงสูงสุด f4.5 ที่ทางยาวโฟกัส 100mm และ f5.6 ที่ทางยาวโฟกัส 400mm และใช้เทคโนโลยีของชิ้นเลนส์แบบเดิม และที่สำคัญคือการปรับระยะซูมโดยการชักบอดี้เลนส์เข้า-ออก (Push-Pull) ซึ่งโดยปกติเราจะไม่ค่อยถนัด และทำให้มีโอกาสที่ฝุ่นจะเข้าไปภายในตัวเลนส์ได้มากขึ้น ตอนนั้นผมก็เลยยังไม่ซื้อ หลังจากที่ผมซื้อเลนส์ 70-200mm มาแล้ว เมื่อผมต้องการเพิ่มทางยาวโฟกัสของเลนส์ ผมก็เลยตัดสินใจซื้อ Extender ของ Canon รุ่น EF 1.4X II มาใช้ ทำให้ได้ทางยาวโฟกัสสูงสุดเพิ่มเป็น 1.4x200 = 280mm (เหตุที่ไม่ซื้อรุ่น 2X ตั้งแต่ทีแรกเลย เพราะตอนนั้นที่ร้านไม่มีของมือสองในร้าน และที่ต้องรอซื้อของมือสองเพราะเราไม่รีบร้อนต้องการใช้งาน ที่สำคัญคือสามารถประหยัดเงินได้มากเลยทีดียว อย่างเช่น เลนส์ 70-200mm ผมซื้อมือสองสภาพดีที่ราคาหย่อนหกหมื่นนิดหน่อย ของใหม่ประมาณเจ็ดหมื่นสาม บอดี้กล้อง 5D Mark III ผมซื้อมือสองสภาพดี ตัวที่ผมซื้อมาอายุใช้งาน 1 ปี ชัตเตอร์ถูกใช้งาน 2,800 ครั้ง เทียบกับอีกตัวหนึ่งอายุใช้งาน 1 ปีเหมือนกัน แต่ชัตเตอร์ถูกใช้งานมาแล้ว 35,000 ครั้ง ของใหม่รับประกันศูนย์ ราคาแปดหมื่นหก นี่ก็ว่าจะไปเอาแฟล็ชของ Canon รุ่น 600 EX RT มือสองสภาพใหม่อีกตัวหนึ่ง ราคาประมาณหนึ่งหมื่น ของใหม่ประกันศูนย์ราคาประมาณหนึ่งหมื่นแปดพัน ของใหม่ประกันร้านราคาประมาณหนึ่งหมื่นหกพัน) ตอนนี้ Cannon มีเลนส์ Tele Zom ตัวใหม่ออกมาคือ EF 200-400mm/f4L IS USM+Built-in Extender 1.4X II แต่ราคาแพงมาก ประมาณสามแสนแปดหมื่นบาท ก็เลยไม่อยู่ในเป้าหมาย เมื่ออาทิตย์ก่อนไปเห็น Extender  ของ Canon รุ่น EF 2X II มือสองสภาพใหม่ ที่ร้านโฟโต้ไฟล์ เดอะมอลล์บางกะปิ เมื่อวันศุกร์ก็เลยหิ้วกล้องและเลนส์ 70-200mm/f2.8L และเลนส์ 180mm/f3.5L Macro ไปทดลองดู ปรากฏว่าเมื่อใช้กับเลนส์ 180mm Macro ในโหมด View Finder ฟังก์ชั่นออโต้โฟกัสใช้ไม่ได้ แต่ในโหมด Live View ฟังก์ชั่นออโต้โฟกัสใช้ได้ แต่ทำงานค่อนข้างช้ามาก เมื่อทดลองใช้กับเลนส์ 70-200mm ปรากฏว่า ทั้งในโหมด View Finder และ Live View ฟังก์ชั่นออโต้โฟกัสทำงานได้ดีเป็นปกติคือเร็วและเงียบ ก็เลยตัดสินใจซื้อมาในราคาเก้าพันบาทถ้วน (ของใหม่ราคาไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นสองพันบาท) เย็นวันนี้ก็เลยเอามาลองถ่ายภาพดู โดยใช้กับเลนส์ 70-200mm ซึ่งจะทำให้ทางยาวโฟกัสสูงสุดเพิ่มเป็น 2x200 = 400mm ซึ่งถ่ายเมื่อเวลาประมาณห้าโมงครึ่ง แสงค่อนข้างน้อยเพราะเป็นหน้าหนาวฟ้าจะมืดเร็ว แต่คุณภาพของภาพก็ถือว่าดีใช้ได้เหมือนกัน ภาพที่ถ่ายเป็นภาพนกกระจอกสองตัวผัวเมีย ช่วยกันหาอาหารมาป้อนลูกน้อย

พ่อนกกระจอก-1

ความเห็นที่ 20.1

ผมเคยคิดมากมายก่ายกองว่าจะใช้กล้องตัวไหนบวกเลนส์อะไร แต่คำถามมาหยุดอยู่ที่จะเอาไปทำอะไร ถ้าตอบสนองความต้องการของตัวเอง ผมว่าผมเจอคำตอบแล้วครับ อิอิ ก็ของที่เรามีอยู่นั่นแหละ "อยากได้ภาพดีต้องอดทน อยากได้ภาพสวยต้องดิ้นรนขนขวาย"

ความเห็นที่ 21

โพสต์ภาพเพิ่ม

พ่ออนกกระจอก-2

ความเห็นที่ 22

โพสต์ภาพเพิ่ม

แม่นกกระจอก-1

ความเห็นที่ 23

โพสต์ภาพเพิ่ม

แม่นกกระจอก-2

ความเห็นที่ 24


เมื่อต้องการถ่ายภาพนกที่เกาะอยู่ค่อนข้างไกล ผมก็ต้องตั้งความยาวโฟกัสสูงสุดไปที่ 400มม. ซึ่งแน่นอนก็ต้องใช้ Tripod ช่วย (ขนาดใช้ Tripod ช่วย เวลากลัวนกจะบินหนีไปก่อน ก็ต้องรีบกดชัตเตอร์ ทำให้กดชัตเตอร์แรงไปหน่อย กล้องมีการขยับตัวเล็กน้อย ภาพที่ได้ก็ยังเบลอเลยครับ) เวลาใช้หัว Tripod แบบหัวบอลธรรมดา เมื่อต้องการปรับมุมกล้องไปตามตำแหน่งของนกที่มักจะกระโดดไปตามกิ่งไม้ การปรับตำแหน่งของหัวบอลแบบธรรมดาจะไม่สะดวก ไม่ทันการ (เรียกว่าไม่ทันกิน) ปัญหาอีกประการหนึ่งของหัวบอลแบบธรรมดาคือ เมื่อบิดล็อคหัวบอลแล้วปล่อยมือ หัวบอลมักจะ Slip ทำให้มุมกล้องไม่อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผมก็เลยไปซื้อหัว Tripod ของ Manfrotto แบบที่มีด้ามสำหรับมือจับ ที่เวลาบีบด้ามจับ ก็จะคลายหัวบอล เวลาปล่อยก็จะล็อคหัวบอล และสามารถปรับระดับความแข็งของการล็อคหัวบอลได้ด้วย ซึ่งทำให้สะดวก คล่องตัวในการปรับมุมกล้องได้มากขึ้น ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา  ตอนบ่ายๆ ผมก็จะตั้งกล้องรอถ่ายภาพนกรอบๆบ้าน ซึ่งหัวบอลแบบด้ามจับก็ใช้งานได้ดีตามที่คาดหวังไว้  เมื่อวานตอนบ่ายแก่ๆ ราวๆซักห้าโมงถึงห้าโมงครึ่ง มีนกชนิดหนึ่งบินมาเกาะที่ระยะไกลพอสมควร มองดูด้วยตาเปล่าก็ไม่รู้ว่าเป็นนกอะไร เพราะด้านหลังมีแบ็คกราวด์เป็นกิ่งไม้ กำลังปรับมุมกล้องเพื่อถ่ายรูป นกก็บินหนีไปก่อนแล้ว  วันนี้ตอนบ่ายแก่ๆ ก็ตั้งกล้องถ่ายรูปนกเหมือนเดิม ในเวลาใกล้เคียงกับเมื่อวาน นกตัวนี้ก็มาเกาะในตำแหน่งเดิม ครั้งแรกถ่ายได้ช็อตเดียว นกก็บินหนีไป แต่อีกสักพักใหญ่ๆ นกก็บินมาเกาะที่เสาอากาศทีวีต้นเดิม คราวนี้ถ่ายได้อีกสี่ห้าช็อต เมื่อดูจากมอนิเตอร์ครั้งแรก ก็ไม่รู้ว่าเป็นนกอะไร เพราะตั้งแต่มาอยู่กรุงเทพฯมา 41 ปีแล้ว ก็เพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรกนี่แหละ เมื่อมาเทียบดูกับหนังสือนกเมืองไทยของคุณหมอบุญส่งฯเล่มล่าสุด ถึงรู้ว่าเป็นนกแซงแซวสีเทา (Ashy Drongo) ชนิด Dicrurus leucophaeus leucogensis เพราะเห็นตาสีแดงค่อนข้างชัด

ข้อสังเกตอย่างหนึ่งคือในช่วงประมาณสิบปีมานี้ มีนกหลายชนิดที่ไม่เคยเห็น หรือไม่ค่อยได้เห็น มาอาศัยอยู่รอบๆบ้านหลายชนิดมากขึ้น เช่น นกอีแพรด นกกาเหว่า นกปรอดหน้านวล และนี่ก็นกแซงแซวสีเทาอีก หรือว่าเมื่อก่อนในซอยส่วนใหญ่จะเป็นที่ลุ่มน้ำขัง มีต้นธูปฤาษีเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ในปัจจุบันมีคนมีฐานะมาซื้อที่ ถมที่ปลูกบ้าน ปลูกต้นไม้ใหญ่มากขึ้น ทำให้นกมีที่อยู่อาศัยมากขึ้น แต่โดยนัยกลับกัน นกกะปูดซึ่งชอบอาศัยอยู่ตามไม้พุ่มไม้เล็กที่มีเถาวัลย์และตำลึงปกคลุม และตามดงต้นธูปฤาษี กลับลดน้อยลงไป

นกแซงแซวสีเทา-1

ความเห็นที่ 25

อัพโหลดภาพเพิ่ม

นกแซงแซวสีเทา-2

ความเห็นที่ 26

อัพโหลดภาพเพิ่ม

นกแซงแซวสีเทา-3

ความเห็นที่ 27

อัพโหลดภาพเพิ่ม

นกแซงแซวสีเทา-4

ความเห็นที่ 28

อัพโหลดภาพเพิ่ม

นกแซงแซวสีเทา-5

ความเห็นที่ 29

เย็นวันนี้ผมก็ตั้งกล้องรอถ่ายภาพนกอีกเช่นเคย วันนี้มีภาพนกบ้านๆที่ยังไม่เคยโพสต์คือ นกเอี้ยงสาริกา นอกจากนี้ผมก็ยังคอยดูว่าเจ้านกแซงแซวสีเทาจะมาเกาะที่เก่าเวลาเดิมหรือไม่ ปรากฏว่าเจ้านกแซงแซวสีเทามาเกาะที่เสาอากาศทีวีต้นเดิมในเวลาเดิมจริงๆครับ และเสาอากาศทีวีต้นนี้ในวันนี้ กลายเป็นที่เกาะยอดฮิตของวันนี้ไปเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะมีเจ้านกแซงแซวสีเทามาเกาะแล้ว ก็ยังมี นกปรอดหน้านวล นกกางเขนบ้าน นกเอี้ยงหงอน และนกเขาใหญ่ มาอาศัยเกาะอวดโฉมกันอย่างคึกคักกันเลยทีเดียว

นกเอี้ยงสาริกา

ความเห็นที่ 30

นกแซงแซวสีเทา-6

นกแซงแซวสีเทา-6

ความเห็นที่ 31

นกแซงแซวสีเทา-7

นกแซงแซวสีเทา-7

ความเห็นที่ 32

นกปรอดหน้านวล

นกปรอดหน้านวล

ความเห็นที่ 33

นกกางเขนบ้าน

นกกางเขนบ้าน

ความเห็นที่ 34

นกเอี้ยงหงอน

นกเอี้ยงหงอน

ความเห็นที่ 35

นกเขาใหญ่

นกเขาใหญ่

ความเห็นที่ 36

แถมด้วยนกปรอดหน้านวลบนยอดกระถินยักษ์

นกปรอดหน้านวลบนยอดกระถินยักษ์

ความเห็นที่ 37

บ่ายแก่ๆวันนี้ ก็ตั้งกล้องกะว่าจะรอถ่ายภาพเจ้าแซงแซวสีเทาอีก เมื่อตั้งกล้องเสร็จ จึงสังเกตเห็นว่าต้นไม้ที่เป็นแบ็คกราวด์ของเสาอากาศทีวียอดฮิต ถูกตัดทิ้งไปแล้ว และคงเพราะสาเหตุนี้กระมัง จึงทำให้เสาอากาศทีวียอดฮิตกลายเป็นคอนโดนกไปเลย เพราะมีนกมาเกาะพร้อมกันหลายตัวมาก มีทั้งนกเขาใหญ่ นกเขาชวา และนกกางเขนบ้าน ทั้งตัวผู้และตัวเมีย  มีนกเขาใหญ่ตัวหนึ่งกาะอยู่นานมาก ร่วมสามชั่วโมง เลยจึงทำให้เจ้าแซงแซวสีเทาไม่มาตามนัด

ในภาพคอนโดนก โปรดสังเกตที่มุมล่างขวาของภาพยังมีนกเขาใหญ่บนยอดมะรุมอีกหนึ่งตัว

คอนโดนก

ความเห็นที่ 38

นกเขาใหญ่บนยอดมะรุม

นกเขาใหญ่บนยอดมะรุม

ความเห็นที่ 39

นกกางเขนบ้านตัวผู้

นกกางเขนบ้านตัวผู้คู่นกเขาใหญ่

ความเห็นที่ 40

นกกางเขนบ้านตัวเมีย

นกกางเขนบ้านตัวเมีย

ความเห็นที่ 41

แถมท้ายด้วยนกเอี้ยงหงอนบนยอดชมพู่มะเหมี่ยว

นกเอี้ยงหงอนบนยอดชมพู่มะเหมี่ยว

ความเห็นที่ 42

วันนี้ตั้งใจจะมาคอยเจ้าแซงแซวสีเทา แต่รอแล้วรอเล่า ก็ไม่มีวี่แววของเจ้าแซงแซวสีเทามาให้เห็น แต่อย่างน้อยก็ไม่ผิดหวังเสียทีเดียว เพราะได้ภาพนกสองชนิดที่ผมยังไม่เคยโพสต์คือ เจ้านกกาเหว่า และนกปรอดสวน
นกกาเหว่า -1

ความเห็นที่ 43

นกกาเหว่า-2
นกกาเหว่า-2

ความเห็นที่ 44

นกปรอดสวน-1
นกปรอดสวน-1

ความเห็นที่ 45

นกปรอดสวน-2
นกปรอดสวน-2

ความเห็นที่ 46

นกปรอดสวน-3
นกปรอดสวน-3

ความเห็นที่ 47

ที่ผ่านมา ผมจะตั้งกล้องรอถ่ายภาพนกตั้งแต่ตอนบ่ายแก่ๆจนถึงเวลาเย็นโพล้เพล้ ทำให้ไม่ได้เห็นนกหลายชนิด และแสงก็น้อย ถ่ายภาพนกได้ไม่ชัดเจนเท่าไหร่ วันนี้ก็เลยลองเปลี่ยนเวลามาถ่ายภาพนกในตอนเช้า โดยเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณเจ็ดโมงครึ่ง ทำให้ได้เห็นนกเพิ่มขึ้นหลายชนิด และแสงก็มากพอที่จะตั้งความเร็วชัตเตอร์สูงๆได้ วันนี้มีภาพนกที่ถ่ายได้มาโพสต์กันหลากหลายสไตล์ ดังนี้
1) นกที่ยังไม่เคยโพสต์ 2 ชนิด คือ นกกิ้งโครงคอดำ และนกปรอดหัวโขน
นกกิ้งโครงคอดำ-1

ความเห็นที่ 48

นกกิ้งโครงคอดำ-2
นกกิ้งโครงคอดำ-2

ความเห็นที่ 49

นกปรอดหัวโขน
นกปรอดหัวโขน

ความเห็นที่ 50

2) วันนี้เป็นวันเด็ก ก็เลยขอเอาภาพนกเด็กมาโพสต์ โดยนกเด็กนี้คือลูกนกกระจอกของนกกระจอกสองตัวผัวเมียที่เคยโพสต์ไปก่อนหน้านี้ ซึ่งตอนนี้ลูกนกกระจอกทารก ได้โตเป็นนกเด็กที่สามารถบินตามพ่อแม่ออกไปหากินได้แล้ว แต่พ่อแม่นกยังต้องดูแลอยู่ใกล้ๆอย่างใกล้ชิด และบางครั้งยังต้องเอาอาหารมาป้อนให้ลูกนกด้วย เจ้านกกระจอกเด็กตัวนี้ หัวยังเกรียนอยู่ดูน่ารักน่าชังดีเหมือนกัน
นกกระจอกเด็ก-1

ความเห็นที่ 51

นกกระจอกเด็ก-2
นกกระจอกเด็ก-2

ความเห็นที่ 52

3) เป็นภาพนกกาเหว่าในเวอร์ชั่นที่ชัดเจนกว่าเมื่อวานนี้
นกกาเหว่า-1

ความเห็นที่ 53

นกกาเหว่า-2
นกกาเหว่า-2

ความเห็นที่ 54

นกกาเหว่า-3
นกกาเหว่า-3

ความเห็นที่ 55

4) เป็นภาพ Birds in Acttion
-นกปรอดสวนชวนเริงระบำ
นกปรอดสวนชวนเริงระบำ

ความเห็นที่ 56

-นกปรอดหน้านวลม้วนตัวกลางอากาศ
นกปรอดหน้านวลม้วนตัวกลางอากาศ

ความเห็นที่ 57

-นกกินปลีอกเหลืองเฟื่องฟ้าถลาลม
นกกินปลีอกเหลืองเฟื่องฟ้าถลาลม

ความเห็นที่ 58

วันนี้ตั้งกล้องถ่ายภาพนกในตอนบ่ายๆ ได้ภาพนกที่ยังไม่เคยโพสต์เพื่มใหม่อีกสองชนิด คือ นกตีทอง กับ นกคัคคูหางแพน
1) อันดับแรกคือ นกตีทอง ที่มาเกาะที่เสาอากาศสื่อสารของบริษัทให้บริการด้านสื่อสารคอมพิวเตอร์ ซึ่งเสาอากาศต้นนี้ที่เป็นที่นิยมของนกชอบเกาะที่สูง เช่น นกเอี้ยง นกกิ้งโครง รวมถึงเจ้านกตีทองนี้ด้วย ความจริงเมื่อหลายวันก่อน นกตีทองตัวหนึ่งเคยมาเกาะที่เสาอากาศต้นนี้ให้ถ่ายรูปทีหนึ่งแล้ว แต่เนื่องจากเสาอากาศต้นนี้ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันตกของตัวบ้าน และวันนั้นนกตีทองมาเกาะในเวลาราวๆหกโมงเย็น โพล้เพล้ใกล้มืดเต็มทีแล้ว เมื่อหันกล้องไปทางเสาอากาศต้นนี้ ก็จะเป็นมุมย้อนแสง และแสงก็น้อยมากด้วย รูปที่ถ่ายมาจึงเห็นตัวนกเป็นเพียงเงาเทาๆดำๆ ไม่เห็นสีของนกเลย แต่ที่รู้ว่าเป็นนกตีทอง ก็เพราะเสียงร้องที่ดัง ต๊ง ต๊ง ต๊ง อันเป็นเอกลักษณ์ของเขานั่นแหละ วันนี้นกตีทองคู่นี้มาเกาะตอนเวลาห้าโมงครึ่งกว่าๆ ซึ่งยังพอมีแสงให้ถ่ายรูปให้พอได้เห็นสีเขียว เหลือง แดง ของตัวนกบ้าง
นกตืทอง-1

ความเห็นที่ 59

นกตีทอง-2
นกตีทอง-2

ความเห็นที่ 60

นกตีทอง-3
นกตีทอง-3

ความเห็นที่ 61

2) อันดับที่สองคือ นกคัคคูหางแพนคู่หนึ่ง ซึ่งมาเกาะที่เสาอากาศทีวียอดฮิตร่วมกับนกเขาใหญ่สามตัว ซึ่งก็เกาะอยู่พักใหญ่ให้ถ่ายรูปได้หลายช็อต แต่สักพัก เจ้าแซงแซวสีเทาก็มาแย่งเกาะไล่ที่ เจ้านกคัคคูหางแพนคู่นี้ก็เลยบินหนีไป ตอนแรกที่ดูรูปนกจากมอนิเตอร์ของกล้อง ก็รู้คร่าวๆว่าเป็นนกในกลุ่มนกคัคคู แต่ไม่รู้ว่าเป็นชนิดใดแน่ เมื่อมาดูในหนังสือนกเมืองไทยของคุณหมอบุญส่งฯ ก็มีนกสองชนิดที่มีลักษณะเหมือนกับนกที่ถ่ายภาพได้ คือนกคัคคูหางแพน กับนกอีวาบตั๊กแตน แต่ทั้งสองชนิดก็มีลักษณะคล้ายกันมาก แต่ที่แน่ใจว่าเป็นนกคัคคูหางแพน เพราะนกนี้ร้อง "วี้-วี่-วี๊ด" คล้ายผิวปากติดต่อกัน เหมือนที่ระบุในหนังสือ ส่วนนกอีวาบตั๊กแตน ในหนังสือระบุว่าร้อง "บิ๊-บิ๊-บิ๊-บิ๊ บิ๊ บิ๊-บิ๊-บิ๊" 4-5 พยางค์แรกเป็นจังหวะเดียวกัน 3-4 พยางค์หลังรัว เบาลงเรื่อยๆ
นกคัคคูหางแพน-1

ความเห็นที่ 62

นกคัคคูหางแพน-2
นกคัคคูหางแพน-2

ความเห็นที่ 63

นกคัคคูหางแพน-3
นกคัคคูหางแพน-3

ความเห็นที่ 64

นกคัคคูหางแพน-4
นกคัคคูหางแพน-4

ความเห็นที่ 65

นกคัคคูหางแพน-5
นกคัคคูหางแพน-5

ความเห็นที่ 66

เมื่อสามวันก่อน ตอนกลางวัน ขณะที่ตั้งกล้องรอถ่ายภาพนกแถวๆเสาอากาศทีวียอดฮิต ก็สังเกตเห็นนกชนิดหนึ่งบินโฉบมาเกาะที่ต้นกระถินยักษ์ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับเสาอากาศทีวี จึงเอากล้องส่องทางไกลส่องดู จึงรู้ว่าเป็นนกตีทอง(กล้องส่องทางไกลเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยได้มากเลยทีเดียว ในการส่องดูนกที่เกาะอยู่บนกิ่งไม้ ต้นไม้ที่อยู่ไกลๆ เพราะมองดูด้วยตาเปล่าไม่ออกว่าเป็นนกอะไร) กว่าจะจัดกล้องเพื่อถ่ายภาพ ก็ถ่ายได้เพียงช็อตเดียว นกก็บินไปเสียก่อน วันต่อมาก็เลยตั้งมุมกล้องเฝ้าที่บริเวณต้นกระถินยักษ์ ก็เห็นนกตีทองมาหากินที่ต้นกระถินยักษ์บริเวณช่อดอกกระถินวันละหลายครั้ง แต่ละครั้งนกจะเกาะเพียงแป๊บเดียว ให้ถ่ายภาพแบบเร็วๆครั้งละ 3-4 ช็อตเท่านั้น และสีของตัวนกก็กลมกลืนกับต้นกระถินมาก สีเขียวเข้ากับใบกระถิน สีเหลืองเข้ากับดอกกระถิน และสีแดงก็เข้ากับฝักกระถินแห้ง ยากที่จะสังเกตได้ด้วยตาเปล่า ทำให้เสียเวลากว่าจะหาตำแหน่งที่นกเกาะอยู่ได้โดยต้องใช้กล้องส่องทางไกลช่วย แม้แต่เมื่อถ่ายภาพมาแล้ว เมื่อจะดูภาพบนจอคอมพิวเตอร์ ยังยากที่จะมองหาตัวนกเจอ
นกตีทอง-1

ความเห็นที่ 67

นกตีทอง-2
นกตีทอง-2

ความเห็นที่ 68

นกตีทอง-3
นกตีทอง-3

ความเห็นที่ 69

นกตีทอง-4
นกตีทอง-4

ความเห็นที่ 70

นกตีทอง-5
นกตีทอง-5

ความเห็นที่ 71

นกตีทอง-6
นกตีทอง-6

ความเห็นที่ 72

วันนี้ขณะที่ตั้งกล้องรอถ่ายภาพเจ้านกตีทองที่ต้นกระถินยักษ์ ก็เห็นนกกะปูดใหญ่มาเกาะที่ต้นกระถินยักษ์ต้นนี้ หลังจากที่ไม่ได้ยินเสียง ไม่ได้เห็นตัวใกล้ๆบ้านมานานร่วมปีแล้ว (ได้เห็นตัวใกล้ๆบ้านครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณเดือนมีนาคมปีที่แล้ว) ซึ่งนับว่าเป็นการปรากฏตัวที่ผิดคาดหมายเหมือนกัน
นกกะปูดใหญ่-1

ความเห็นที่ 73

นกกะปูดใหญ่-2
นกกะปูดใหญ่-2

ความเห็นที่ 74

นกกะปูดใหญ่-3
นกกะปูดใหญ่-3

ความเห็นที่ 75

เมื่อวานนี้ ขณะที่ตั้งกล้องถ่ายภาพนกที่มาเกาะที่เสาอากาศทีวียอดฮิตอยู่ ก็ได้ยินเสียงนกร้องมาจากยอดต้นกระถินยักษ์ที่อยู่ใกล้ๆ จึงรีบเอากล้องส่องทางไกลส่องดู ก็เห็นนกที่ไม่เคยเห็นในบริเวณนี้มาก่อน จึงรีบปรับมุมกล้องมาถ่ายภาพนกตัวนี้ แต่ก็ถ่ายภาพแบบรีบๆได้เพียงช็อตเดียว นกก็บินหนีไปก่อนที่จะถ่ายช็อตต่อๆไปได้ เมื่อมาดูภาพนกดังกล่าวในจอคอมพิวเตอร์ ในตอนแรกก็คาดว่าน่าจะเป็นนกในจำพวกนกปรอดหรือนกขมิ้น เมื่อเปรียบเทียบกับภาพในหนังสือนกเมืองไทยของคุณหมอบุญส่งฯดู ภาพนกในหนังสือที่ใกล้เคียงที่สุด ก็น่าจะเป็นนกขมิ้นท้ายทอยดำไม่เต็มวัย หรือนกขมิ้นปากเรียววัยอ่อน เสียงร้องของนกคือ "แกร้ก" หรือ "แกร้" หรือ "แคร่" นี่แหละ แต่สีของนกที่ถ่ายภาพมาดูจะเข้มกว่าสีของนกในภาพในหนังสือ ก็เลยไม่มั่นใจว่าจะเป็นนกขมิ้นหรือเปล่า และถ้าเป็นนกขมิ้น จะเป็นนกขมิ้นท้ายทอยดำไม่เต็มวัย หรือว่านกขมิ้นปากเรียว ขอท่านผู้รู้กรุณาช่วยยืนยันให้ด้วยครับ
นกขมิ้นท้ายทอยดำไม่เต็มวัย หรือนกขมิ้นปากเรียววัยอ่อน หรือนกอะไร?

ความเห็นที่ 76

ภาพนกทั้งหมดที่โพสต์ในกระทู้นี้มาตั้งแแต่ต้น เป็นภาพที่ถ่ายโดยตั้งกล้องบนระเบียงบ้านชั้นสองทั้งสิ้น ไม่ได้หิ้วกล้องไปถ่ายภาพนกนอกบ้านเลย เมื่อวานนี้ก็เลยลองหิ้วกล้องไปตระเวณหาทำเลถ่ายภาพนกนอกบ้านดู โดยตระเวณเข้าไปในซอยลึกเข้าไป ก็ไปเจอทำเลที่หนึ่งซึ่งเป็นซอยแยกที่ติดกับที่ลุ่มมีดงต้นธูปฤาษีอยู่ เห็นมีนกนางแอ่นบ้านบินโฉบเฉี่ยวหากินแมลงอยู่มากพอสมควร (มุมกล้องที่ระเบียงบ้านก็เห็นนกนางแอ่นบ้านบินหากินแมลงอยู่เหมือนกัน แต่ไม่มากนัก) และก็ยังเห็นนกยางสีขาวหากินในบริเวณดงธูปฤาษีอยู่เหมือนกัน ก็เลยตั้งกล้องเพื่อถ่ายภาพนกนางแอ่นบ้านและนกอื่นๆที่เห็น เริ่มถ่ายตั้งแต่สิบเอ็ดโมงกว่าจนถึงบ่ายสามโมงเศษๆ ก็กลับเพราะแบตเตอรี่กล้องหมด (พกไปสามก้อน แต่มีไฟอยู่ประมาณสองก้อนครึ่ง) ก็ได้ภาพนกที่ยังไม่เคยโพสต์จากจุดถ่ายภาพใหม่มาสองชนิด คือนกนางแอ่นบ้านและนกอีแพรดแถบอกดำ (นกนางแอ่นบ้านเคยถ่ายภาพได้จากระเบียงบ้านมาบ้างแล้ว ส่วนนกอีแพรดแถบอกดำนั้น ที่ระเบียงบ้านเคยได้ยินแต่เสียงแต่ไม่มีโอกาสได้ถ่ายภาพ เพราะส่วนใหญ่นกอีแพรดจะบินโฉบหากินแมลงในระดับต่ำบริเวนใกล้ถังขยะ) ส่วนนกยางสีขาวนั้นเห็นอยู่แว๊บเดียว เลยถ่ายภาพไม่ทัน

นกนางแอ่นบ้านจากระเบียงบ้าน -1
นกนางแอ่นบ้านจากระเบียงบ้าน-1

ความเห็นที่ 77

นกนางแอ่นบ้านจากระเบียงบ้าน-2
นกนางแอ่นบ้านจากระเบียงบ้าน-2

ความเห็นที่ 78

นกนางแอ่นบ้านจากดงธูปฤาษี
นกนางแอ่นบ้านจากดงธูปฤาษี

ความเห็นที่ 79

นกอีแพรดแถบอกดำจากดงธูปฤาษี
นกอีแพรดแถบอกดำจากดงธูปฤาษี

ความเห็นที่ 80

ในระหว่างที่รอถ่ายภาพนกอยู่นั้น ก็มีสัตว์ชนิดอื่นมาให้ถ่ายภาพเหมือนกัน รายแรกเป็นมังกรกอทอมอ (คู่แข่งของมังกรโคโมโด) ต่อสู้ไล่ขับกันเพราะปัญหาพื้นที่ ตัวที่ไล่ขับนั้นจะตัวใหญ่กว่าตัวที่ถูกขับไล่ รายที่สองนั้นเป็นกระรอก (หรือกระจ้อน หรือกระแต ก็ไม่รู้ เพราะจำแนกไม่เป็น) ที่กำลังสัญจรบนเส้นทางลอยฟ้า
มังกรกอทอมอ 1-1
มังกรกอทอมอตัวใหญ่ที่ไล่ขับ-1

ความเห็นที่ 81

มังกรกอทอมอตัวใหญ่ที่ไล่ขับ-2
มังกรกอทอมอตัวใหญ่ที่ไล่ขับ-2

ความเห็นที่ 82

มังกรกอทอมอที่ถูกขับไล่
มังกรกอทอมอที่ถูกขับไล่

ความเห็นที่ 83

กระรอก? -1
กระรอก?-1

ความเห็นที่ 84

กระรอก?-2
กระรอก?-2

ความเห็นที่ 85

เมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็ตั้งกล้องถ่ายภาพที่ระเบียงบ้านชั้นสองต่อ ก็ได้ภาพนกที่ยังไม่เคยโพสต์อีกหนึ่งชนิด คือนกจาบคาหัวเขียว
นกจาบคาหัวเขียว-1
นกจาบคาหัวเขียว-1

ความเห็นที่ 86

นกจาบคาหัวเขียว-2
นกจาบคาหัวเขียว-2

ความเห็นที่ 87

เมื่อวานและวันนี้ได้หิ้วกล้องไปถ่ายภาพนกนอกบ้าน โดยไปตั้งกล้องถ่ายภาพนกที่เพิงร้านอาหารไก่ย่างวิเชียรบุรี ซึ่งเป็นที่ว่างเปล่าติดฟุตบาทริมถนนซึ่งอยู่เกือบสุดซอย ที่ว่างแปลงนี้กว้างพอสมควร มีต้นกระถินยักษ์ขึ้นปกคลุมเต็มพื้นที่ และแม่ค้ามาปรับที่ตั้งเพิงขายไก่ย่างส้มตำอยู่ริมฟุตบาท เมื่อวานและวันนี้ก็ไปกินไก่ย่างส้มตำตอนเที่ยง กินเสร็จก็ตั้งกล้องถ่ายภาพนกที่โต๊ะอาหารใต้เพิงนั่นแหละ ก็ได้ภาพนกเล็กๆที่มาหากินในดงต้นกระถินยักษ์ เป็นภาพนกที่ยังไม่เคยโพสตืมาสองชนิด คือนกจับแมลงสีน้ำตาล กับนกกระจ้อยสีไพล
นกจับแมลงสีน้ำตาลที่ถ่ายภาพมาได้มีสองตัว ตัวแรกมีขนสีเทาและเทาเข้ม ตัวที่สองมีขนสีน้ำตาลปนเทา ซึ่งตามภาพในหนังสือนกเมืองไทยของคุณหมอบุญส่งฯระบุว่า ขนสีเทาและเทาเข้มคือขนเก่า ส่วนขนสีน้ำตาลปนเทาคือขนใหม่
นกจับแมลงสีน้ำตาลตัวที่หนึ่ง-1
นกจับแมลงสีน้ำตาลตัวที่หนึ่ง-1

ความเห็นที่ 88

นกจับแมลงสีน้ำตาลตัวที่หนึ่ง-2
นกจับแมลงสีน้ำตาลตัวที่หนึ่ง-2

ความเห็นที่ 89

นกจับแมลงสีน้ำตาลตัวที่หนึ่ง-3
นกจับแมลงสีน้ำตาลตัวที่หนึ่ง-3

ความเห็นที่ 90

นกจับแมลงสีน้ำตาลตัวที่สอง-1
นกจับแมลงสีน้ำตาลตัวที่สอง-1

ความเห็นที่ 91

นกจับแมลงสีน้ำตาลตัวที่สอง-2
นกจับแมลงสีน้ำตาลตัวที่สอง-2

ความเห็นที่ 92

นกกระจ้อยสีไพลนั้น ตอนแรกเมื่อมาเทียบดูกับภาพนกในหนังสือนกเมืองไทยของคุณหมอบุญส่งฯแล้ว ภาพนกกระจ้อยที่มีลักษณะใกล้เคียงกับภาพนกที่ถ่ายมาได้ คือนกกระจ้อยสีไพลกับนกกระจ้อยเหลืองไพล ซึ่งมีลักษณะคล้ายกันมาก แต่ที่มั่นใจว่าเป็นนกกระจ้อยสีไพล เพราะแถบสีดำคาดตาที่ชัดเจนกว่า
นกกระจ้อยสีไพล-1
นกกระจ้อยสีไพล-1

ความเห็นที่ 93

นกกระจ้อยสีไพล-2
นกกระจ้อยสีไพล-2

ความเห็นที่ 94

แถมท้ายด้วยภาพหนูที่หากินบนพื้นและปีนป่ายตามต้นกระถินยักษ์ บางตัวก็มีสีเทา บางตัวก็มีสีเทาปนน้ำตาลแดง บางตัวก็มีสีน้ำตาลแดง ไม่รู้ว่าเป็นคนละชนิด หรือว่าชนิดเดียวกันแต่คนละช่วงวัย
หนูต้นไม้
หนูต้นไม้

ความเห็นที่ 95

เมื่อวานนี้ก็หิ้วกล้องออกไปถ่ายภาพนกนอกบ้านอีก คราวนี้เปลี่ยนจุดตั้งกล้อง โดยจุดตั้งกล้องใหม่อยู่ประมาณกลางซอย เข้าไปในซอยแยกสั้นๆ ซึ่งเป็นถนนที่ทำเตรียมไว้สำหรับจัดสรรที่ไว้นานแล้ว แต่ยังไม่มีใครมาซื้อที่สร้างบ้านหรืออาคาร สองข้างทางซ้ายขวาและปลายซอยเป็นดงต้นธูปฤาษีสูงเกือบท่วมหัว และมีต้นมะขามเทศใหญ่ข้างถนนซอยแยกอยู่หลายต้น ก็มีนกมาหากินในดงธูปฤาษีอยู่หลายชนิด แต่ส่วนใหญ่ได้ยินแต่เสียง ไม่เห็นตัว แต่ก็ได้ภาพนกที่ยังไม่เคยโพสต์ที่มาหากินตามช่อดอกมะขามเทศ คือนกกระจอกใหญ่ ทั้งตัวผู้และตัวเมีย

นกกระจอกใหญ่ตัวผู้-1
นกกระจอกใหญ่ตัวผู้-1

ความเห็นที่ 96

นกกระจอกใหญ่ตัวผู้-2
นกกระจอกใหญ่ตัวผู้-2

ความเห็นที่ 97

นกกระจอกใหญ่ตัวผู้-3
นกกระจอกใหญ่ตัวผู้-3

ความเห็นที่ 98

นกกระจอกใหญ่ตัวผู้-4
นกกระจอกใหญ่ตัวผู้-4

ความเห็นที่ 99

นกกระจอกใหญ่ตัวเมีย-1
นกกระจอกใหญ่ตัวเมีย-1

ความเห็นที่ 100

นกกระจอกใหญ่ตัวเมีย-2
นกกระจอกใหญ่ตัวเมีย-2

ความเห็นที่ 101

นกกระจอกใหญ่ตัวเมีย-3
นกกระจอกใหญ่ตัวเมีย-3

ความเห็นที่ 102

นกกระจอกใหญ่ตัวเมีย-4
นกกระจอกใหญ่ตัวเมีย-4

ความเห็นที่ 103

ผมดีใจที่กระทู้ที่เปิดไป ทำให้หลายๆคนกลับมามองนกบ้านๆของเรา(มั้ง) อย่างน้อยก็ยังมีคนที่ยังมองเขาอยู่ นี่แหละคือเจตนาที่แท้จริงของผม

ความเห็นที่ 103.1

ขอขอบคุณคุณตุ้มและเพื่อนๆสมาชิกหลายๆท่านที่ยังติดตามกระทู้นี้ของผมอยู่ และก็ขอขอบคุณคุณตุ้มที่ช่วยเปิดประเด็น "นกบ้านๆ" ขึ้นมา ที่ทำให้ผมได้หันมาลองถ่ายภาพนกรอบๆบ้านดู ซึ่งก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้มีผลและความตั้งใจหลายอย่างตามมาคือ
1) ทำให้ผมเริ่มสนใจถ่ายภาพนกรอบๆบ้านอย่างจริงจังมากขึ้น ทำให้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับนกเพิ่มขึ้นอีกหลากหลายชนิด จากเดิมที่เคยเห็นแต่นกรอบๆบ้านที่เคยเห็นจนชินตาอยู่เพียง 3-4 ชนิด ที่ชอบมาหากิน เกาะอาศัยตามชายคาบ้าน ระเบียงบ้าน หรือตามชายคาตึก เช่น นกกระจอกบ้าน นกพิราบ นกเขาใหญ่และเขาชวา หรือนกเอี้ยง แต่หลังจากที่เริ่มลงมือถ่ายภาพนกอย่างจริงจังมากขึ้น ทำให้ได้เห็น ได้ถ่ายภาพนกรอบๆบ้านเพิ่มมากขึ้นอีกหลายชนิด เท่าที่นับดู จำนวนชนิดของนกรอบๆบ้านที่ถ่ายได้จากมุมกล้องบนระเบียงบ้านที่เดียว ก็นับได้ 20 ชนิดแล้ว และจำนวนนกที่หิ้วกล้องออกไปถ่ายภาพนกนอกบ้าน นับถึงปัจจุบันอีก 6 ชนิด (ยังไม่รวมนกที่เห็นตัวแต่ยังถ่ายภาพไม่ได้ และที่ได้ยินแต่เสียงแต่ไม่เห็นตัวอีกหลายชนิด) และที่สำคัญคือทำให้มีสาเหตุที่เป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้ได้มีโอกาสได้ใช้กล้องและขวนขวายหาอุปกรณ์เสริมมาฝึกฝนและพัฒนาทักษะในการถ่ายภาพให้ดียิ่งขึ้น  กล้องและเลนส์ Canon ที่ผมใช้อยู่ในปัจจุบันนี้ ซื้อมาตั้งแต่เมื่อประมาณต้นปีที่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ถ่ายภาพอะไรจริงจังนัก นานๆทีก็เอามาซ้อมมือเล็กๆน้อยๆ ฝีมือก็เลยไม่ค่อยได้พัฒนาไปถึงไหน ที่ผ่านมาก็ศึกษาวิธีการถ่ายภาพจากหนังสือบ้าง จากเว็บไซต์บ้าง มาพอสมควร แต่ก็ไม่ได้ลงมือปฏิบัติฝึกฝนอย่างจริงจังมากนัก และโดยที่ผมจะเน้นการถ่ายภาพในโหมดแมนนวลเป็นหลัก ซึ่งต้องฝึกฝนมากพอสมควรจึงจะสามารถถ่ายภาพออกมาให้ได้คุณภาพดีตามที่ต้องการ ตอนนี้ก็เลยมีโอกาสได้ลงมือฝึกฝนอย่างจริงจังเสียที ซึ่งก็เข้ากับหลักที่ว่า การจะลงมือทำอะไรสักอย่าง มันยากอยู่ที่ตอนเริ่มต้น แต่เมื่อได้เริ่มแล้ว มันก็ดูไม่ยากอีกต่อไป และก็เข้ากับหลักการของผมที่ว่า "ความรู้ได้จากการศึกษาเล่าเรียน ความชำนาญได้จากการหมั่นเพียรฝึกฝน"

2) จากการที่ได้เฝ้าติดตามถ่ายภาพนกบ้านๆนี้ ก็ทำให้ได้มีโอกาสศึกษาชีวิตในธรรมชาติของนกต่างๆไปด้วย เช่น นกแต่ละชนิดกินอะไรเป็นอาหาร ตัวอย่างที่ได้เรียนรู้คือ เมื่อก่อนผมก็เข้าใจว่านกกระจอกเป็นนกที่กินอาหรจำพวกเมล็ดธัญญพืชอย่างเดียว แต่เมื่อสังเกตตอนที่พ่อแม่นกกระจอกหาอาหารมาป้อนลูกน้อย ก็เห็นพ่อแม่นกช่วยกันหาหนอนและแมลงมาป้อนลูกนก และพ่อแม่นกช่วยกันเลี้ยงลูกนกจนลูกนกบินได้และช่วยกันดูแลลูกด้วยกันต่อไปอีกระยะหนึ่ง แต่พ่อแม่นกอีแพรดแตกต่างออกไป ที่พ่อแม่นกช่วยสลับกันฟักไข่จนไข่เป็นตัว แล้วพ่อนกอีแพรดจะช่วยเลี้ยงลูกต่ออีกสักหนึ่งสัปดาห์ แล้วพ่อนกก็จากไป ปล่อยให้แม่นกสอนลูกนกให้หัดบินแต่ผู้เดียว โดยการเกาะอยู่ใกล้ๆกับลูกนกแล้วร้องเรียกให้ลูกนกบินเข้าไปหา จนลูกนกสามารถบินได้แข็งแรงแคล่วคล่อง เพราะนกอีแพรดเป็นนกที่ต้องบินได้อย่างแคล่วคล่อง เพราะต้องบินโฉบจับแมลงกลางอากาศ นอกจากนี้ก็มีข้อมูลด้านอื่นๆ เช่น นกแต่ละชนิดชอบหากินที่ต้นไม้ชนิดใด นกแต่ละชนิดผสมพันธุ์ปีละกี่ครั้ง ในฤดูใด เดือนใด ซึ่งในหนังสือคู่มือนกเมืองไทย ส่วนใหญ่จะไม่มีข้อมูลเหล่านี้ ทำให้ผมมีความตั้งใจที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลเหล่านี้ให้เป็นระบบ ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

3) จากการที่ผมได้ศึกษานกบ้านๆนี้ ทำให้ผมเปลี่ยนมุมมองในการศึกษาธรรมชาติใหม่คือ เมื่อเราพูดถึงสัตว์ต่างๆ เรามักจะแบ่งสัตว์เป็นสองประเภทใหญ่ๆ คือ สัตว์เลี้ยง และสัตว์ป่า เมื่อเราพูดถึงสัตว์ป่า เราก็มักจะนึกถึงสัตว์ที่อยู่ในป่าจริงๆ เช่นในป่าสงวนฯ ในป่าอนุรักษ์ต่างๆ ที่อยู่ห่างไกลจากชุมชน จากตัวเมืองออกไป แต่ความจริง ก็ยังมีสัตว์ต่างๆที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ ที่ไม่ใช่สัตว์เลี้ยง แต่อาศัยอยู่ใกล้ๆรอบๆตัวเราอีกมากมาย แม้แต่ในบ้านของเราเอง ทำให้ผมเปลี่ยนคำจำแนกสัตว์ต่างๆใหม่ว่า "สัตว์เลี้ยง" กับ "สัตว์ในธรรมชาติ" ซึ่งสัตว์ในธรรมชาติที่ถึงแม้จะอยู่ใกล้ๆตัวเรา ที่เราเห็นเป็นประจำจนชินตา แต่ก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจให้ศึกษาอยู่อีกมากมายทีเดียว

4) การที่ผมได้มีโอกาสฝึกฝนถ่ายภาพมากขึ้นเช่นนี้ ทำให้มีความคิดว่า เมื่อเรามีศักยภาพที่จะถ่ายภาพเกี่ยวกับธรรมชาติได้ ก็ควรจะนำภาพเกี่ยวกับธรรมชาติที่ถ่ายได้นี้ มาแชร์เพื่อเผยแพร่ให้เพื่อนสมาชิกอื่นๆที่สนใจศึกษาธรรมชาติ ได้มีโอกาสได้ดูได้ศึกษาเกี่ยวกับธรมชาติมากขึ้น และหากสมาชิกท่านอื่นๆที่มีศักยภาพเช่นเดียวกันนี้ ช่วยกันแชร์ภาพให้มากขึ้น ก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสในการศึกษาธรมชาติให้แก่สมาชิกท่านอื่นๆ ให้เพิ่มมากขึ้นมากขึ้นตามไปด้วย เป็นการใช้ศักยภาพของเราเพื่อเพิ่มโอกาสให้แก่สมาชิกท่านอื่น

ความเห็นที่ 103.1.1

ผมก็ต้องขอขอบคุณ คุณGatsby ด้วยเช่นกันครับ ที่ให้ความรู้เรื่องการถ่ายภาพในหลายมิติ หลายมุมมอง ทำให้เห็นค่าเห็นความงามในแง่มุมต่างๆที่หลากหลาย มันเป็นคุณค่าทางจิตใจที่ไม่อาจซื้อได้ด้วยเงินตรา อย่างน้อยสิ่งที่ "ครอบครัวนี้" ได้ทำมันก็ส่งผลให้หลายคนหันกลับมามองสิ่งใกล้ตัวเรามากขึ้น "แม้แต่สื่งที่เราเห็นจนชิ้นตา แต่ใช่ว่าจะเข้าใจ" ขอบคุณจริงๆครับที่ทำให้หลายๆคนหันมาสนใจเจ้าตัวเล็กๆ ที่ไม่ค่อยมีใครสนใจ และได้บอกเรื่องราวกับอะไรอีกมากมายเกี่ยวกับเขาโดยผ่านเรา "ครอบครัวสยามเอนสิส" ขอบคุณครับ

ความเห็นที่ 104

เมื่อสองวันก่อน ก็ไปกินไก่ย่างส้มตำที่เพิงไก่ย่างเจ้าเดิม แล้วก็นั่งรอถ่ายรูปนกเหมือนเดิม เห็นนกจับแมลงอยู่สองสามตัว ตอนแรกก็นึกว่าเป็นนกจับแมลงสีน้ำตาลเหมือนเดิมทั้งหมด ก็ถ่ายรูปนกไปเรื่อยเปื่อย ไม่ได้ตั้งใจถ่ายแบบปราณีตนัก แต่เมื่อกลับมาดูรูปนกที่ถ่ายได้ในจอคอมพิวเตอร์ เห็นมีนกจับแมลงตัวหนึ่งมีสีแปลกๆ ไม่เหมือนตัวอื่น จึงเปรียบเทียบดูกับภาพนกในหนังสือคู่มือนกเมืองไทยของคุณหมอบุญส่งฯ จึงรู้ว่าเป็นนกจับแมลงคอแดงตัวผู้ (ความจริงสีคอนกก็ไม่ได้แดงชัดหรอก แต่จะออกเป็นสีส้มอ่อนๆ แต่ก็เรียกว่านกจับแมลงคอแดง) ดูเผินๆ จะเหมือนนกจับแมลงสีน้ำตาล แต่มีจุดสังเกตความแตกต่างเพิ่มคือ สีขนที่หลังและปีกของนกจะเป็นสีเทาเสมอกัน ไม่เห็นสีขอบขนปีก และหัวตาจะไม่ขาวเหมือนนกจับแลงสีน้ำตาล และสีที่หางจะเข้มเกือบดำ และขอบหางซ้ายขวาจะมีสีขาว

นกจับแมลงคอแดงตัวผู้-1
นกจับแมลงคอแดงตัวผู้-1

ความเห็นที่ 105

นกจับแมลงคอแดงตัวผู้-2
นกจับแมลงคอแดงตัวผู้-2

ความเห็นที่ 106

นกจับแมลงคอแดงตัวผู้-3
นกจับแมลงคอแดงตัวผู้-3

ความเห็นที่ 107

วันนี้วันที่ 14 กุมภาฯ วันวาเลนไทน์ เป็นวันแห่งความรัก จึงขอนำภาพความรักของนกกระจอกมาโพสต์ให้ชมกันครับ

ของขวัญวันแห่งความรัก คือการสร้างรังรักอันอบอุ่นให้คู่รักเพื่อให้กำเนิดลูกน้อยที่น่ารักต่อไป
ของขวัญวันแห่งความรัก

ความเห็นที่ 108

ความรักของนกกระจอกคู่รัก
ความรักของนกกระจอก-1

ความเห็นที่ 109

ความรักของนกกระจอก-2
ความรักของนกกระจอก-2

ความเห็นที่ 110

ไม่ได้แวะเวียนไปถ่ายภาพนกที่ดงต้นธูปฤาษีในซอยแยกมาหลายอาทิตย์ เมื่อวานนี้ก็เลยไปตั้งกล้องถ่ายภาพนกที่นั่น ก็โชคดีที่มีนกกระจิบหญ้าสีเรียบ ที่ได้ยินแต่เสียงแต่ไม่เห็นตัวมานาน บินมาเกาะที่ต้นธูปฤาษีที่ข้างถนนซอยแยก ตรงจุดที่ตั้งกล้องถ่ายภาพนกพอดี ก็เลยมีโอกาสได้ถ่ายภาพนกมา 4-5 ช็อต
นกกระจิบหญ้าสีเรียบ-1
นกกระจิบหญ้าสีเรียบ-1

ความเห็นที่ 111

นกกระจิบหญ้าสีเรียบ-2
นกกระจิบหญ้าสีเรียบ-2

ความเห็นที่ 112

นกกระจิบหญ้าสีเรียบ-3
นกกระจิบหญ้าสีเรียบ-3

ความเห็นที่ 113

นกกระจิบหญ้าสีเรียบ-4
นกกระจิบหญ้าสีเรียบ-4

ความเห็นที่ 114

แถมด้วยนกพิราบสีสวย

นกพิราบสีสวย-1
นกพิราบสีสวย-1

ความเห็นที่ 115

นกพิราบสีสวย-2
นกพิราบสีสวย-2

ความเห็นที่ 116

ตามด้วยมังกรกอทอมอขนาดกลางๆอีกหนึ่งตัว
มังกรกอทอมอ

ความเห็นที่ 117

เมื่อวานนี้ก็ไปตั้งกล้องถ่ายภาพนกที่ซอยแยกข้างดงต้นธูปฤาษีต่ออีกวันหนึ่ง ก็ได้ภาพนกที่ยังไม่เคยโพสต์อีกหนึ่งชนิด ซึ่งเมื่อเทียบกับภาพนกในหนังสือนกเมืองไทยของคุณหมอบุญส่งฯดูแล้ว ภาพนกที่ใกล้เคียงที่สุดคือนกพงใหญ่ปากหนา เหตุที่ไม่ค่อยมั่นใจนัก ก็เพราะจงอยปากของนกที่ถ่ายภาพมาได้ไม่ค่อยเหมือนในหนังสือเสียทีเดียวนัก

นกพงใหญ่ปากหนา-1
นกพงใหญ่ปากหนา-1

ความเห็นที่ 118

นกพงใหญ่ปากหนา-2
นกพงใหญ่ปากหนา-2

ความเห็นที่ 119

นกพงใหญ่ปากหนา-3
นกพงใหญ่ปากหนา-3

ความเห็นที่ 120

เมื่อวานนี้ก็ไปถ่ายรูปนกที่ซอยแยกข้างดงธูปฤาษีอีก ได้ภาพนกที่ยังไม่เคยโพสต์อีกสองชนิดคือ นกกระติ๊ดขี้หมู และนกกระจอกตาล ทั้งตัวผู้ ตัวเมีย และตัวผู้วัยอ่อน

นกกระติ๊ดขี้หมู-1
นกกระติ๊ดขี้หมู-1

ความเห็นที่ 121

นกกระติ๊ดขี้หมู-2
นกกระติ๊ดขี้หมู-2

ความเห็นที่ 122

นกกระติ๊ดขี้หมู-3
นกกระติ๊ดขี้หมู-3

ความเห็นที่ 123

นกกระจอกตาลตัวผู้-1
นกกระจอกตาลตัวผู้-1

ความเห็นที่ 124

นกกระจอกตาลตัวผู้-2
นกกระจอกตาลตัวผู้-2

ความเห็นที่ 125

นกกระจอกตาลตัวผู้-3
นกกระจอกตาลตัวผู้-3

ความเห็นที่ 126

นกกระจอกตาลตัวผู้กับนกกระจอกตาลตัวเมีย
นกกระจอกตาลตัวผู้กับนกกระจอกตาลตัวเมีย

ความเห็นที่ 127

นกกระจอกตาลตัวผู้วัยอ่อน-1
นกกระจอกตาลตัวผู้วัยอ่อน-1

ความเห็นที่ 128

นกกระจอกตาลตัวผู้วัยอ่อน-2
นกกระจอกตาลตัวผู้วัยอ่อน-2

ความเห็นที่ 129

นกกระจอกตาลตัวผู้วัยอ่อน-3
นกกระจอกตาลตัวผู้วัยอ่อน-3

ความเห็นที่ 130

แถมด้วยนกนางแอ่นบ้านที่เกาะสายไฟฟ้า
 

นกนางแอ่นบ้านเกาะสายไฟ-1

ความเห็นที่ 131

นกนางแอ่นบ้านเกาะสายไฟ-2
นกนางแอ่นบ้านเกาะสายไฟ-2

ความเห็นที่ 132

ปิดท้ายด้วยนกอีแพรดแถบอกดำที่มาหากินแมลงที่ร้านไก่ย่างส้มตำแบบไม่กลัวคน อยู่ห่างคนไม่ถึงเมตร
นกอีแพรดแถบอกดำ-1

ความเห็นที่ 133

นกอีแพรดแถบอกดำ-2
นกอีแพรดแถบอกดำ-2

ความเห็นที่ 134

ขอโทษที ลืมโพสต์นกกระจอกตาลตัวเมีย
นกกระจอกตาลตัวเมีย-1

ความเห็นที่ 135

นกกระจอกตาลตัวเมีย-2
นกกระจอกตาลตัวเมีย-2