ทะเลหมอก...แห่งล้านนาตะวันออก

ถึงแม้ว่าปีนี้หน้าหนาวจะหนาวเป็นช่วงๆ  แต่ก็ไม่ทำให้มนต์สเน่ห์แห่งการท่องเที่ยวเมืองเหนือเสื่อมคลายเลยค่ะ  เมื่ออาทิตย์ที่แล้วก็เลยชะแวบขึ้นเหนือ กลับไปเยือนขุนสถานอีกครั้ง...หวังว่า..คราวนี้คงได้เห็นทะเลหมอกที่ขุนสถาน และดอกนางพญาเสือโคร่งที่หน่วยการจัดการต้นน้ำ ยะฮู้ๆ

Comments

ความเห็นที่ 1

แต่แล้วงานก็เข้า...อิอิ ทำให้กว่าจะออกเดินทางก็เกือบบ่ายแล้ว ถึงที่นอนคืนแรกคือ หน่วยการจัดการต้นน้ำขุนสถาน  หวังว่าตื่นเช้าขึ้นมาจะเห็นหญาเสือโคร่งบานเต็มดอย เย้ๆ  แต่...ทะเลหมอกจะได้เห็นไหมน้อ  ลมแรง เมฆก็เยอะ

จนแล้วจนรอด ก็ยังไม่ได้เห็นทะเลหมอกที่ขุนสถานซักที  ดอกพญาเสือโคร่งก็...บานนิดเดียวเอง แง้ๆ  ภาวะโลกร้อน ทำพิษหรือเปล่าเนี่ย

img_3873.jpg img_3878.jpg บ้านนี้ อดนอนเหมือนเดิม

ความเห็นที่ 2

พี่เจ้าหน้าที่บอกว่า เดือนหน้าจะบาน แล้วเราจะได้มาไหมเนี่ย...แง้ๆ  ไม่เป็นไรค่ะ การเดินทางเริ่มต่อ เพราะจุดหมายต่อไปคือ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน จุดชมวิวทะเลหมอก 360 องศาและดวงดาวนับล้าน ที่ดอยเสมอดาว/ผาชู้
เราเลือกใช้เส้นทางตรงผ่านขุนสถานไป ผ่าน อ.นาน้อย แวะกินข้าวกลางวันกับเพื่อนร่วมรุ่น ตัวอุทยานห่างจากตัวอำเภอแค่ 18 กม.เอง จิ๊บๆ
img_4205.jpg มองจากที่กินข้าว แม่น้ำน่านค่ะ

ความเห็นที่ 3

ตอนแรกว่าจะนอนดอยเสมอดาวค่ะ  แต่ว่ามันโล่งเหลือเกิน ท่าทางจะร้อน เลยเปลี่ยนใจไปนอนผาชู้ดีกว่า น่าจะสะดวกกว่าในหลายๆ อย่าง 

ที่มาของ "ผาชู้" มาจากตำนานรักสามเส้า ของ"เจ้าจ๋วง"เจ้าเมืองแห่งแคว้นศรีษะเกษ สมรสกับ "เจ้าเอื้อง"รักกันมานานแสน แต่ยังไม่มีบุตร ครั้งหนึ่งเจ้าจ๋วงออกป่าล่าสัตว์ ได้พบกับ "นางจันทร์" สาวบ้านป่ารูปงาม เจ้าจ๋วงตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น เพียรเฝ้าบอกรัก จนนางใจอ่อน เจ้านางจันทร์เห็นว่า ใดสวามี ยังไม่กลับมาเสียที นานมากแล้วเลยออกตามหา เห็นเจ้าจ๋วงอยู่กับหญิงอื่น ที่โขดหิน จึงยื่นคำขาดให้เจ้าจ๋วงเลือก เจ้าจ๋วงเลือกไม่ได้ จึงตั้งสัตย์ไว้ว่า "หากความรักของเราทั้งสาม เป็นรักบริสุทธิ์ ของให้ร่างกายของเราทั้งสามมาอยู่ด้วยกัน ณ โขดหินที่นี่" เจ้าจ๋วงเลยกระโดดหน้าผา เจ้าจันทร์เห็นดังนั้น จึงกระโดดตามสวามีผู้เป็นที่รัก นางเอื้อยก็เลยกระโดดตามอีกคน  ด้วยแรงอธิษฐานจึงทำให้ทั้งสามกลายเป็น ต้นจ๋วง, จันทร์ผา และเอื้องคำ อยู่ตรงหน้าผา และเรียกผานี้ว่า...ผาชู้

img_4078.jpg img_4154.jpg

ความเห็นที่ 4

ด้วยความที่งานเข้า ถึงแม้ว่าตอนกลางคืนดาวจะเต็มฟ้าสวยแค่ไหน..ก็นั่งพิมพ์คอมป๊อกแป๊กๆ  นาย Aimbryo คว้ากล้องออกไปนานมาก กลับมาพร้อมกับรูปดาว...

ฮาๆ ทำให้เจ้าของกล้องเพิ่งรู้ว่า G11 ก็ทำได้เหมือนกัน
img_3942.jpg img_3955.jpg img_3962.jpg

ความเห็นที่ 5

ก่อนนอนก็ภาวนาเช่นเคย ว่าขอให้เห็นทะเลหมอกซักทีเต๊อะ เกิดมาไม่เคยเห็น...


และแล้วคำอธิษฐานก็เป็นจริง ได้พูดประโยคนี้เมื่อเปิดเต็นท์ตอนตี 5.50 น. "ทะเลหมอกสวยจังเลย"
img_3975.jpg img_3999.jpg img_4077.jpg

ความเห็นที่ 6

เสียดายที่วันนี้พระอาทิตย์ขึ้นปุ๊บ แดดแรงปั๊บ ไม่ได้ถ่ายเป็นดวงแดงๆ กลมๆ เหมือนไข่ดาวอ่ะ หรือว่ากล้องประสิทธิภาพไม่ถึง ฮาๆ 
img_4109.jpg img_4126.jpg มองออกมาจากเต็นท์ img_4196.jpg

ความเห็นที่ 7

ทะเลหมอกที่นี่...อยู่นานมากๆ เราเลยแวะถ่ายรูปชมทะเลหมอกไปตลอดทาง

ชื้นใจจริงๆ อิอิ
img_4203.jpg หงุดหงิดสายไฟจริงๆ ฮาๆ

ความเห็นที่ 8

ถ่ายวันนี้เองครับตอนขับรถไปทำงานที่ อ.ปัว ประมาณ 8.20น.

p1010510_small.jpg p1010512_small.jpg p1010513_small.jpg

ความเห็นที่ 8.1

โห..หมอกลงหนามากเลยค่ะ ฟังข่าวเมื่อตอนกลางวันบอกว่าภาคเหนือจะมีหมอกจัด...

ความเห็นที่ 9

ดอกพญาเสือโคร่งที่ภูทับเบิกก็โดนผลกระทบจากโลกร้อนเหมือนกันครับพี่
ชาวม้งเจ้าถิ่นบอกมันออกดอกผิดช่วงและไม่ได้ออกพร้อมกัน

อยากมีภาพถ่ายคู่เคียงดวงดาราแบบ คห๔ ภาพสุดท้ายมั่งจัง
หากคืนนี้มีดาวอยู่ล้านดวง ฉันขอได้ไหมสักดวงหนึ่งช่วยฟังฉันที ~

ความเห็นที่ 9.1

ทุกคนเลยเวลาเห็นภาพนี้...ต้องร้องเพลงเดียวกัน ^^

" หากคืนนี้มีดาว เป็นล้านดวง แต่ใจฉันมีเธอ แค่เพียงดาวเดียว"
 

ความเห็นที่ 9.1.1

yes ถูกใจเสียจริงๆ

ความเห็นที่ 10

วัดบุญยืน เป็นวัดเก่าแก่มีอายุนับร้อยปี ตามตำนานกล่าวว่า สร้างขึ้นคู่กับการสร้างเวียงป้อโดยพระยาป้อ เดิมเป็นสำนักสงฆ์เล็กๆชื่อว่าวัดบุญนะ ตั้งอยู่ที่ตลาดสด อำเภอเวียงสาในปัจจุบัน ต่อมาเมื่อพุทธศักราช ๒๓๒๙ บรรดาเสนาอำมาตย์และชาวบ้านเห็นว่าพื้นที่ตั้งวัดคับแคบเกินไปจึงมีมติให้ย้ายมาตั้งใหม่ในพื้นที่ปัจจุบันและมีชื่อเรียกว่า "วัดป่าสักงาม" เนื่องจากใช้ไม้สักสร้างกุฏิ
และพระวิหาร พุทธศักราช ๒๓๔๐ เจ้าอัตถวรปัญโญ เจ้าผู้ครองนครน่าน ได้สร้างพระอุโบสถขึ้น และในปีพุทธศักราช ๒๓๔๓ทรงโปรดให้สร้างพระพุทธรูปประทับยืนทางเปิดโลก เพื่อเป็นพระประธานในพระอุโบสถ ชาวบ้านจึงเรียกวัดแห่งนี้ว่า "วัดบุญยืน"ตามพุทธลักษณะของพระพุทธรูปตราบจนทุกวันนี้
img_4246.jpg สายไฟเจ้ากรรม img_4286.jpg

ความเห็นที่ 11

ชอบเสาวัดมากเลยค่ะ  สวยจัง

img_4266.jpg img_4273.jpg

ความเห็นที่ 12

อิ่มใจด้วยบุญกันแล้ว ขออิ่มกายด้วยอาหารกันบ้าง นาย aimbryo บอกว่า ก่อนมาไปหาในเน็ตมามีร้านนมอยู่ร้านหนึ่งชื่อ P.P. milk อยู่ริมแม่น้ำน่าน กาแฟอร่อย บรรยากาศดี ที่สำคัญ รสชาติอร่อย ราคาถูกด้วย...

ที่ว่าเป็นร้านเล็กๆ ค่ะ อยู่ตรงข้ามแม่น้ำน่าน ราคากาแฟแก้วล่ะ 20-25 บาท รสเข้มถึงใจมาก จัดว่าอร่อยเลยทีเดียว มีร้านหมูกระทะอยู่ตรงข้าม เลยสั่งสุกี้ทะเลรวม...ราคาชามละ 25 บาท ได้หมึก กุ้ง เกินคุ้มค่ะ น้ำจิ้มสุกี้ก็ไม่มีกลิ่นเต้าหู้ยี้ด้วย

กินกัน 3 คน หมดไป 155 บาท
P.P. milk img_4291.jpg บันนาฟฟี้ แถมฟรี อิอิ (เจ้าของร้านเรียกว่าแบบนี้)

ความเห็นที่ 12.1

น่ากินมากอ่ะ...

ความเห็นที่ 12.1.1

ความจริงแล้วที่เคยเห็นบันน๊อฟฟี่มันไม่ใช่แบบนี้หน่ะค่ะ  แต่พี่เจ้าของร้านแกลองประยุกต์ดู เป็นกล้วยหอม ราดน้ำคล้ายๆ คาราเมลแต่พี่เค้าทำเอง ราดซ้ำอีกทีด้วยช๊อคโกแลต กินกับกาแฟ อร่อยซะ  อ่อ..พี่เจ้าของร้านใจดี เป็นมิตรสุดๆ พันจะหลงสเน่ห์เมืองน่านอีกคนแล้วค่ะ

ความเห็นที่ 13

อิ่มแล้ว...ไปกันต่อ ที่สุดท้ายคือ "เฮือนจักรยาน" ค่ะ  เป็นแหล่งรวบรวมจักรยานหลากหลายรูปแบบมาก และที่สำคัญคือ จักรยานเยอรมัน อายุกว่า 110 ปี ล้อหน้าใหญ่ ล้อหลังเล็กค่ะ ไปชมที่นี่มาได้ความรู้เกี่ยวกับจักรยานเยอะมากๆ  เพราะเจ้าของเป็นผู้บรรยายเองเลย
img_4351.jpg img_4317.jpg img_4329.jpg

ความเห็นที่ 14

จักรยานบางคัน ที่จับยังเป็นหวายก็มี บางคันไม่มีโซ่ จักรยานพับเก็บได้สมัยสงครามโลก และอีกหลากหลายรูปแบบค่ะ ตรงหน้าจักรยานจะมีตรายี่ห้อผู้ผลิต แต่ว่ามีอยู่บางคันจะเป็น "ตราสามเศียร"  ออกแบบโดย ร.5 ทรงประทานให้บริษัทฟิลลิปป์ติดแทน และเอามาขายในเมืองบางกอกค่ะ

นอกจากนี้ยังมีโปรแกมขี่จักรยานเที่ยวรอบเมืองด้วยนะคะ  เค้าจะมีไกด์พาปั่นจักรยานโบราณไปในชุมชนที่ อ.เวียงสา ไปดูวัฒนธรรมของชุมชนที่นั้น น่าสนใจๆ คราวหน้าคงต้องมาค้าง ที่อ.เวียงสาสักคืน

ที่ใส่เทียนหน้ารถ img_4322.jpg ตรงช้างสามเศียร

ความเห็นที่ 14.1

BSA เริ่มจากจักรยานส่งจดหมาย ลงท้ายที่จักรยานยนต์ราคาหลายอยู่ ในหมู่คนที่รู้จัก ไม่น้อยหน้าฮ่าร์เลย์ของมะกันเลยนิ

ความเห็นที่ 15

หมดแล้วสำหรับเวลาแห่งการท่องเที่ยว ทริปนี้สมอยากจริงๆ กับทะเลหมอกสวยมากมาย ดังนั้นจึงร่ำลากระทู้นี้ไปด้วยภาพทะเลหมอกยามเช้าที่ผาชู้ ถึงแม้มองไม่เห็น 360 องศา แต่ก็สวยไปอีกแบบ
img_4128.jpg

ความเห็นที่ 16

แหล่มมากมาย..หนีเที่ยวอีกแล้ว...


อยาไปชมคานไขว้ ช้างสามเศียรกับตาจริง ๆ ..

ความเห็นที่ 17

ทะเลหมอกเห็นแล้วอยากตีกรรเชียง

จาก G11 FC vbvb cool

ความเห็นที่ 18

ทะเลหมอกงดงามยิ่งนัก ^^

ความเห็นที่ 19

เที่ยวบ่อยมากถึงมากที่สุดสำหรับแก้งค์นี้ ไปเที่ยวที่หนาวๆ ยังงี้อย่าลืมทาครีมด้วย หน้างี้ลอกเชียว 5555

รูปสวยมากมายยยยย

ความเห็นที่ 19.1

ตาดิวบ้า..หน้าลอกที่ไหน เหงื่อทั้งนั้นเลย ชิชิ

ความเห็นที่ 20

หมูน้อยจอมหม่ำ แก้มตุ่ยเลย

ความเห็นที่ 21

งามทะเล งามดอกไม้ งามดวงดาว แต่....แต่  ไม่มีแมลงปอเลยอ่ะ

ความเห็นที่ 22

งามจริง ๆ ครับ  ทะเลหมอกเมืองน่านก็สวยมาก ๆ น่าไปจริง ๆ อ่ะ (^^)

ฟ้าที่เต็มด้วยดาวสวยมากครับ  นึกไม่ถึงว่า G11 จะถ่ายออกมาได้งามขนาดนี้ :)

ปล.เรื่องนางพญาเสือโคร่งนี่  ไม่อิจฉาครับ  ไปเจอของดีที่ดอยอินทนนท์มาเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว  กำลังงามสะพรั่งเลย  อิ อิ :)

ความเห็นที่ 23

เพิ่งมีโอกาสมานั่งเล่นเน็ตหลังจากกลับจากเชียงใหม่เมื่อหลังปีใหม่ ขอขอบคุณมากที่ยังนึกถึงร้านกาแฟเล็กๆที่ริมน้ำเวียงสาได้ ได้แก้กระดานหน้าร้านให้สะกดถูกต้องแล้วตามที่มีข้อสังเกตมา พร้อมกันนี้ก็ได้เพิ่มเมนูตามฤดูกาลคือไอศครีมและเครื่องดื่มที่ใช้สตรอเบอรี่เป็นวัตถุดิบ เนื่องจากตอนนี้เป็นหน้าสตรอเบอรี่ แอบหวังไว้เล็กๆว่าจะได้พบลูกค้าจากแดนไกลชุดนี้อีกครั้ง จะได้แก้ตัวสำหรับของว่างหรือเครื่องดื่มที่อาจจะไม่ถูกปาก คำแนะนำของลูกค้าจากที่ต่างๆจะช่วยให้ PP Milk ปรับปรุงร้านและของขายให้ดีขึ้น ปีนี้โชคดีที่อากาศหนาวนาน จึงได้มีโอกาสต้อนรับลูกค้าหลากหลายขึ้น
เชิญมาแอ่วน่าน แล้วแวะเวียงสากันอีกถ้ามีโอกาสนะคะ สวัสดีปีใหม่ค่ะ (คงไม่ช้าเกินไป)