ปู่ระอา..ที่ป่าละอู

เสาร์ที่แล้วไม่ได้พาเธอไป  เพราะติดไปแคมป์กับเด็กๆ เสาร์นี้บอกว่าถ้าไม่พาไป...มึง..ตาย  เลยบอกว่าปู่ระอา...เธอไม่เก็ตเลยแถมได้ยินไปอีกแบบว่า  กูระอา เล่นเอาเธอกะฟัดกะเฟียดไปยกใหญ่  เลยบอกว่าป่าละอูไง....ไปมั้ย หนึ่งปีแล้วนะที่ไม่ได้ไปเยือน  
เธอยิ้มออกได้   "ไปไปไป....แต่แวะเอ้าท์เลตด้วยนะ (ร้านค้าเครื่องแต่งกายประเภทนำเข้าบ้าง ส่งออกบ้างที่ท่ายาง)
กะว่าจะวิ่งรถสายใหม่ หนองหญ้าปล้อง-ยางชุม-หนองพลับ เลี้ยวขวาไปห้วยสัตว์ใหญ่และป่าละอู  เลยต้องขับอ้อมตามถนนใหญ่ไปแวะละลายทรัพย์ที่เอ้าท์เลตก่อนเข้าป่า..สบายใจ
ถึงป่าละอูที่ลานจอดรถ สัตว์ป่าตัวแรกที่ออกมาทักและต้อนรับคือพญากระรอกดำ

Comments

ความเห็นที่ 1

กินข้าวกล่องก่อนเพราะเที่ยงครึ่งแล้ว..ลงห้วยตรงด่านเก็บตั๋ว แล้วเดินตามกระแสน้ำลงไป ไม่ขึ้นเพราะมีนักท่องเที่ยวพอสมควร  ไปกันสองคน พยายามหาเป้าหมายที่เคยพบเมื่อปีที่แล้ว คือแมลงปอเสือหางคีม... Onychogomphus castor (ชื่อไทยตั้งเอง) ที่พบอยู่หลายตัว  แต่เที่ยวนี้ยังไม่มีวี่แวว  แต่ก็ยังได้พบตัวนี้เป็นครั้งที่สอง แมลงปอบ้านสี่แต้มเหลือง Tetrathemis platyptera ซึ่งเป็นแมลงปอที่แปลกมาก ที่ตัวเมียวางไข่บนบกตามกิ่งไม้
ถ่ายระยะไกลพอสมควรรูปเล็กมาcropแล้วเลยไม่ชัด

ความเห็นที่ 2

กับตัวนี้ที่พบมากขึ้นกว่าปีที่แล้ว (ปีที่แล้วเมื่อเดือนเม.ย.) แมลงปอเข็มหางเข็มเอราวัณ Prodasineura laidlawi
สงสัยจะโชกโชนมาก เหลือเพียงสี่ขา

ความเห็นที่ 3

และแล้วก็ต้องละทิ้งจากเจ้าหางเข็มอาราวัณ  เพราะได้ยินคุณเธอตะโกนเรียก  บอกว่ามาดูนี่เร็ว  ตัวใหม่ๆ  ....  เราเองก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไรเพราะพูดแบบนี้บ่อย  แต่ก็ไม่ใช่ตัวใหม่เสมอไป  เช่นเดียวกะครั้งนี้  พอไปดูก็พบว่าเป็นตัวเมียของสกุล Coeliccia  เลยบอกว่าคงไม่ใช่ใหม่มั้ง ต้องเห็นตัวผู้ก่อน  และไม่นานก็พบตัวผู้ มันคือ แมลงปอเข็มท้องยาวสันหลังม่วง Indocnemis orang  เคยพบแล้วที่น้ำตกนางครวญ  เมืองกาญจน์  (สรุปแล้วไม่ใช่สกุล Coeliccia )
เข็มท้องยาวสันหลังม่วง แต่ยังไม่ม่วงมาก

ความเห็นที่ 3.1

ดีใจ เจ้าสันหลังม่วงออกมาบินกันแล้ว ^^

ความเห็นที่ 4

นี่ก็เป็นครั้งแรกที่พบเจ้าแมลงปอเข็มภูเขาท้องส้ม Rhinagrion mina ที่ป่าละอู
Rhinagrion mina  ตัวผู้

ความเห็นที่ 4.1

แก้ไขเป็นแมลงปอเสือภูเขาท้องจุดเขียว Rhinagrion viridatum

ความเห็นที่ 5

และที่สำคัญ  พบยักษ์เขียวธรรมดา Anax guttatus ที่เกาะนิ่งเกือบไม่ไหวติง ในตอนบ่ายสอง  คงจะหลับหรือไม่ก็อายุมากอ่อนแรง  ดูปีกรู้สึกว่ามีร่องรอยของการใช้งานมานาน
เกาะสูงไปหน่อย ถ่ายไม่ได้มุมดีๆ

ความเห็นที่ 5.1

ขออนุญาตเอาไปลงใน SI นะครับ ครูเล็ก 
ตัวเมีย นานๆ จะเห็นมันเกาะสักทีนึง

ความเห็นที่ 5.1.1

ยินดีครับ

ความเห็นที่ 5.2

หานช้างฮ้อง (Dendrocnide sp) หากไปแตะโดนคันบรรลัยครับ
 
พญากระรอกดำกินลูกเม็ก (Macaranga tanarius (L.) Mull.Arg.) ด้วยเหรอครับ (ตามภาพเปิดกระทู้) ผมเคยเห็นแต่นกกิน

ความเห็นที่ 5.2.1

เกือบไปแล้วตรู.... กะว่าจะโน้มกิ่งมันมาเพื่อดมกลิ่นดอก  แต่บังเอิญพบแมลงปอก่อน เลยลืมเรื่องดมกลิ่นไป เฮ่อ.....ขอบคุณครับที่บอก
พญากระรอกดำกำลังกินลูกของต้นที่เห็นนั่นแหละ แต่ไม่รู้ต้นอะไรเหมือนกัน

ความเห็นที่ 5.3

ชอบๆๆๆ ง่าตัวนี้ yes
เคยเห็นแต่ตัวผู้เกาะ

ความเห็นที่ 6

ใครก็ได้ครับช่วยดูตัวนี้หน่อยว่าใช่ แมลงปอเข็มเรียวสามสี Aciagrion pallidum มั้ย เพราะคุณเธอได้ภาพมาเพียงภาพเดียว
สงสัยๆๆๆอยู่

ความเห็นที่ 6.1

ตัวนี้ยังเป็นตัวที่ต้องสงสัยอยู่ครับ อยู่ในกลุ่ม pallidum-complex ครับ แต่ไม่คิดว่าเป็น pallidum จริงๆ  เนื่องจากตัวผู้ปลายท้องมีสีฟ้า และลายที่ prothorax ก็ไม่ค่อยจะเหมือนกับ pallidum ที่เจอเท่าไหร่ขอรับ

ความเห็นที่ 7

ฝากชาวปู เป็นปูหลงรู  หารูไม่เจอน่าจะเป็นปูห้วยคิรีขันธ์  (เดาเอา  เพราะพบที่ประจวบคิรีขันธ์)
pu_plu54.jpg

ความเห็นที่ 7.1

ออกแนวปูสวนผึ้ง Demanietta suanphueng น่ะครับ แต่ก็ไม่แน่ใจเพราะดูจากภาพเอา
แต่ไม่ใช่ปูคีรีขันธ์ D. khirikhan เพราะรายนั้นจะกระดองโค้งนูนกว่า และดูเรียบมันกว่าทุกชนิด มีอีกตัวที่อาจจะเป็นไปได้คือปูหัวหิน D. huahin แต่ผมดูจากภาพแล้วนึกถึงตัวสวนผึ้งมากกว่า

ความเห็นที่ 7.1.1

ขอบคุณคุณนกกินเปี้ยวครับ ช่วยดูตัวนี้ให้ด้วยครับ มีภาพเดียวจากเพื่อนผม จากลำน้ำภาชี อ.สวนผึ้ง  ใช่ปูหินสวนผึ้งมั้ยครับ  ส่วนตัวล่างก็คือตัวเดียวกันกับภาพจากป่าละอู แต่อีกมุมหนึ่ง
จากสวนผึ้ง จากป่าละอู

ความเห็นที่ 7.1.1.1

คิดว่าใช่นะครับ

ความเห็นที่ 8

ฝากชาวแมงมุม  ช่วยดูให้หน่อย
spd_plu54.jpg

ความเห็นที่ 9

ตอนเดินลอดซุ้มไม้  ไม่ได้สังเกตเบื้องบน  มัวหาแต่แมลงปอที่ข้างล่าง  เสียงร้อง คู้กๆๆ บนหัวแล้วกิ่งไหวก็ไหวยวบยาบอย่างแรง  แหงนไปมองเจ้าของเสียง ............. เป็นฝูงเลยที่เดียว
ค่างแว่น

ความเห็นที่ 10

มีแอมฟิเบียนมาด้วย ตัวแรกคงยังเด็กๆ ขนาดเล็กกว่าหัวแม่มือ  ส่วนตัวสองยังเป็นลูกอ๊อดสีเหลืองทอง
ขนาดเล็กกว่าหัวแม่มือ ลูกอ๊อดเหลืองทอง

ความเห็นที่ 10.1

ตัวที่เกาะเป็นกบลายหินปัญหา หรือตะนาวศรี (Amolops pamhai)

ส่วนลูกอ๊อดเป็นของกบเขาสูง (Clinotarsus alticolus)

ความเห็นที่ 10.1.1

ขอบคุณครับ....คุณน้อต

ความเห็นที่ 11

ปลาซิวอะไรไม่รู้ ที่นี่ปลาพลวงเยอะพอสมควรครับ ไม่ได้ถ่ายรูปมา
fsh_plu54.jpg

ความเห็นที่ 11.1

ความเห็นที่ 11.1.1

ใครมีรูปใต้น้ำสวยๆก็ขอให้แปะรูปไว้ที่ index บ้างนะครับ :-) (ชนิดอื่นๆด้วย)

ความเห็นที่ 11.1.2

ขอบคุณคุณนณท์ครับ ลายด้านข้างปลาซิวใบไผ่ตัวนี้สวยงามดีครับ แต่มองบนผิวน้ำไม่ค่อยเห็น

ความเห็นที่ 12

นกนิดหน่อยเป็นกางเขนน้ำกับเด้าลม (ชื่ออาจไม่ถูกต้องครับ ไม่มีหนังสืออยู่กับมือ)
bd_kkn_plu54.jpg bd_plu542.jpg

ความเห็นที่ 12.1

นกกางเขนน้ำหลังเทา(Enicurus schistaceus)
นกเด้าลมหลังเทา(Motacilla cinerea)

ความเห็นที่ 12.1.1

ขอบคุณครับ..คุณPtyas

ความเห็นที่ 13

ก่อนกลับ  เหตุระทึกขวัญก็เกิดขึ้น  เห็นไบไม้กิ่งไม้ไหวๆ ใกล้พื้นดิน  แต่รกครึ้มมองไม่ถนัดชัดเจน ยงโย่ยงหยกจนมันหันมาโผล่ตรงช่องว่าง  เห็นเป็นลูกลิง  ไม่แน่ใจว่าเป็นลิงอะไร  แต่เห็นหน้าออกแดงๆ  หูคลายคน  เลยบอกคุณเธอว่า เราเจอของจริงเข้าแล้วมันคือลิงเสน  เคยเล่าความดุร้ายของลิงเสนให้เธอฟังบ่อย  จนเธอจำจนฝังใจ  แถมยังไปได้ฟังจากคนนำทางที่อุ้มผางซึ่งเป็นกะเหรียงบอกว่า  อย่าไปยุ่งกับมันมันดุ ตูดมันนี่เอามีดฟันยังไม่เข้าเลย เพราะหนังตรงนั้นมันหนาและด้าน  เราเองก็ได้ยินได้ฟังมาประมาณนี้  แต่เห็นว่ามันยังเล็กเป็นลูกลิง คงไม่ดุร้าย  เลยพยายามย่องเข้าใกล้ คุณเธอนั้นขวัญเสียซะแล้ว แต่ก็ยังมีกะใจปรามแต่เราดื้อแล้วก็ยังไม่ค่อยฟัง (ที่จริงคุณเธอกลัว  ไม่อยากให้อยู่ห่างๆกัน)  บอกเธอว่าจะใจเย็นๆ อย่าตกใจ  อย่าขวัญกระเจิงนะ  เราไม่ไปทำอะไรมัน มันคงไม่ทำอะไรหรอก พอได้เห็นว่าได้ระยะพอสมควร  ถ่ายรูปแล้ว  กลับเห็นตัวแม่อยู่ไม่ห่างจากตัวลูกเท่าไร  แต่ก็ดูไม่เป็นป็นปัญหา  ไม่ก้าวร้าว ระยะราว สิบเมตร พอได้ภาพก็ถอยกลับมาท่คุณเธอ  หูก็ฟัง...ได้ยินเสียงเจี๊ยกจ๊าก มาจากด้านหน้า แสดงว่าไม่ใช่สองแม่ลูกนี้แล้วเท่านั้น  เธอยิ่งกลัวหนัก  จึงค่อยดันรุนๆ ตัวเธอเดินไปข้างหน้า เพื่อจะเลี่ยงขึ้นฝั่ง  (คอยระวังหลังไว้ไห้ คิดว่าถ้ามันมาคงเหมือนหมา ชอบเข้าด้านหลัง )ซึ่งเป็นลานจอดรถเก่า และแล้วตัวผู้ตัวหนึ่งก็โผล่ให้เห็นในระยะไกล  วิ่งเข้าป่าไป ............... เกือบจะขึ้นฝั่งได้อยู่แล้ว  พอเราโผล่พ้นก้อนหินก้อนใหญ่ เสียงคร่อกและเสียงแหวกพงหญ้าดังขึ้นในระยะ สองสามก้าว คุณเธอแทบช็อก ส่วนผม...ยกกล้องเล็งเป้าหมายทันทียิงไม่นับ  เจ้าตัวผู้อีกตัวก็คงตกใจเรา  มันรีบเดินจ้ำอ้าวข้ามห้วยห่างออกไปอีกฟากหนึ่ง  สรุปแล้วเหนื่อยมากตอนจบนี่เอง  เฮ้อ........สวัสดีครับ
ลูก แม่ ตัวผู้  ไม่เขียนบอกก็ต้องรู้

ความเห็นที่ 13.1

ฝูงนี้เจอตัวโกร๋นๆ แบบนี้ทางบ้านกร่างบ้างเปล่า เพราะเป็นป่าผืนเดียวกัน จนเป็นเรื่องให้หมอสัตว์ป่ากรมอุทยานฯ ต้องลงพื้นที่
http://www.tourtamoan.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=3131#54686

ความเห็นที่ 13.1.1

ไม่เจอแบบนั้นเลย  มองตัวที่ประจันหน้าระยะประชิดก็คิดว่ามันมีรอยขนร่วงเหมือนกัน  แต่กลับมาดูภาพแล้ว เป็นรอยเปียกน้ำไม่ใช่ขนร่วง (มีอีกฝูงที่ใกล้เขตทหารหรืออะไรจำไม่ได้แล้ว อยู่ติดถนนนทางออกเขื่อนเพชร จากยางชุมน่ะครับ เห็นวิ่งข้ามถนนไปมา ตรงนี้คงมีคนเอาอาหารมาให้เลยมีมาก)

ความเห็นที่ 14

ลองเคารพซึ่งกันและกัน มันก็ไม่ได้ก้าวร้าวอย่างที่คิดครับ เคยฝ่าฝูงลิงเสนที่สตูล มันก็น่รารักดี แถมมีโยนมะขามให้ลูกน้องของผมด้วย

ความเห็นที่ 14.1

เขาว่าถ้าไปจ้องตากับมัน  เท่ากับหาเรื่อง จริงมั้ยครับ

ความเห็นที่ 14.1.1

โดยทั่วไปการจ้องหน้าลิงค่างเขม็งเป็นนัยแห่งการทายท้า (อันพฤติกรรมคนเองก็ไม่ต่างจากลิง... อย่าไปอายลิงหละ แต่ถ้าจ้องหน้าด้วยสายตาละห้อยนั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่งคือเรียกร้องขอความ สงสารเห็นใจ)
ลิงป่าโดยแท้ที่มีสัญชาตญาณดิบตามธรรมชาติแม้จ้องหน้าก็บ่เคืองแค้น เพราะเขาฉลาดพอที่ไม่อยากมีเรื่องโดยไม่จำเป็น แต่ผู้ใดอยากหาเรื่องก็มิใช่เรื่องยาก เป็นต้นว่าอาจทำท่าทีรักสัตว์แบบผิดกาละ โดยพยายามเข้าไปแตะเนื้อต้องตัวสมาชิกในฝูงหรือลูกเล็กเด็กแดง ซึ่งเท่าที่ทราบจากพรานเขาว่าลิงเสนนี่แหละเหี้ยมสุด (โม้ เปล่าหว่า)... ไอ้กระผมก็ไม่กล้าลองเพราะไม่ชอบแสดงกริยารักสัตว์หรืออยากทำให้คนอื่นเห็น ว่าเรารักสัตว์จากการแสดงกริยาดังกล่าว เพราะมักเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้ผู้ที่รักสัตว์แบบครึ่งๆ กลางๆ อยากหาเขามาเลี้ยงซะนี่ ก็ต้องเอามาจากป่าแทบทั้งนั้น... เพียงแต่เมื่อลับตาก็ต้องแกล้งกันมั่ง เช่น เขกกบาล หรือจับดีดหู ฮ่าๆๆๆ
แต่ลิงเลี้ยงรวมทั้งลิงกึ่งธรรมชาติ โดยเฉพาะฝูงลิงแสมที่อยู่ในชุมชน หรือชุมชนเข้าไปแย่งที่เขา ต้องระวังให้จงหนัก เพราะอยู่ใกล้มนุษย์หรือโตขึ้นมากับมนุษษ์จึงรู้สันดานกันและกันเป็นอย่างดี ลิงเหล่านี้เขามีวิธีประเมินสถานการณ์แล้วรู้ด้วยว่ามนุษย์ตนใดกลัวหรือขาด ความยำเกรงพวกเขาหรือไม่เพียงใด ดังนั้นหากตะบะไม่แก่กล้าพอก็อย่าไปจ้องหน้าเขานานๆ แกล้งซื่อบื้อทำไม่รู้ไม่ชี้เสียดีกว่า...  แต่เมื่อต้องเผชิญกับลิงเหล่านี้จะปลอดภัยกว่าหากมองผ่านๆ กวาดสายตาให้ทั่วเพื่อหาทางหนีทีไล่ คอยระวังเฉพาะตัวที่ดุซึ่งมักเป็นตัวผู้วัยรุ่นหรือตัวเต็มวัย... พวกทีมช่วยเหลือสัตว์ป่าบาดเจ็บรู้เรื่องนี้ดี จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะไม่อยากโด่งดังโดยไม่จำเป็น เช่น เข้าไปช่วยเหลือลิงเจ็บแล้วถูกลิงหมู่รุม กัดตูดขาด หากเป็นข่าวแบบนี้ก็งามหน้าเลยหละ ฮ่าๆๆๆๆ สังคมแทนที่จะสงสารคนที่ทุ่มเทไปช่วยกลับจะไปสงสารลิงแทน
แต่ในชะนีแล้วหากจ้องหน้านิ่งไว้กลับเป็นการดี เพราะจะเป็นนัยของการป้องปรามให้พวกมันชั่งใจไม่กล้าเข้าจู่โจมทันที
นอกจากนี้การยักคิ้วหลิ่วตา (ถ้าคนทำคงเป็นนัยเจ้าชู้กะล่อนทองกันทั้งหญิงชาย)  แต่ในลิงมักทำพร้อมกับการยกคาง ค้อมตัวลงในท่าเตรียมพร้อมกระโจนเข้าหาพร้อมคำรามเบาๆ โดยมากจะพบในลิงที่อายุน้อยกำลังห้าวจัด ขณะที่ตัวเต็มวัยจะแสดงออกแค่การแยกเขี้ยวค้างไว้เท่านั้นเพราะมั่นใจในพละ กำลังและประสบการณ์  การตักเตือนข่มขู่อีกรูปแบบหนึ่งคืออ้าปากกว้างคล้ายหาวนอนจนมองเห็นฟัน เขี้ยวด้านบน....สำหรับมนุษย์จะไม่ใช้วิธีนี้เพราะกลัวฝ่ายตรงข้ามเห็นฟัน หลอ! แต่ก็เข้าท่าเหมือนกันนะ เพราะแทนที่จะเป็นการข่มขู่ แต่กลับทำให้ศัตรูหายเคืองชั่วขณะ เพราะกลั้นหัวเราไม่อยู่กับคุณหลอ
แต่กระผมทิ้งท้ายไว้สักหน่อยเพื่อความปลอดภัย หากผู้ใดไปลองตามที่ว่ามาแล้วมิได้เป็นเช่นนั้น แถมยังถูกกัดตูดขาด ถูกทึ้งเกษาที่มีน้อยอยู่แล้วจนแหว่งวิ่นไปอีก ฯลฯ ก็ขอออกตัวว่าวานรแต่ละชีวิตมีความเป็นปัจเจกบุคคลสูงยิ่งนักไม่ต่างจากวานร มนุษย์อย่างเราๆ ท่านๆ กล่าวคือ 100 ตัว นิสัยต่างกันไปร้อยตัว เป็นพัน เป็นหมื่น เป็นแสนตัวต่างก็ผิดแผกกันไป... พฤติกรรมวานรที่กล่าวมาจึงเป็นเพียงภาพลวง เฮ้ย! ภาพรวมเท่านั้นจึงอย่าไปไปเหมาหมด ...  สรุปก็คือ ฮ่าๆๆๆ ตัวใครตัวมันครับ ผลเป็นไงมาเล่าให้ฟังมั่งนะครับcheeky

ความเห็นที่ 15

ผมเป็นโรคจิต เวลาเจอลิงพวกนี้ ชอบมองหน้า ยิงฟันใส่ สรุปก้ไม่มีอะไรนะครับ อิอิื

ความเห็นที่ 15.1

หน้าตาท่านมันบ่งบอกอยู่แล้วหละครับว่าจิตบกพร่อง... ถ้ารู้ตัวแบบนี้บำบัดไม่ยากครับ เจอกันเมื่อไหร่เดี๋ยวผมจัดการให้

ความเห็นที่ 16

ผมกลัวลิง/ชะนี มาตั้งแต่เด็กแล้ว เคยโดนชะนีคว้าแขนจะกัดทีหนึ่งเลยฝังใจ พักหลังๆเริ่มโอเคกับมัน เพราะเริ่มอ่านทางและพฤติกรรมมันออกบ้าง แต่ก็ยังเป็นสัตว์กลุ่มที่ไม่ไว้ใจมากๆ มันฉลาด

ความเห็นที่ 16.1

งั้นก็คงต้องไม่ไว้ใจคนด้วยดิ ฉลาดกว่าลิงนะ โดยเฉพาะพวก female เนี่ย ตัวดีนักแล

ความเห็นที่ 16.1.1

วันก่อนพวก female ก็บอกว่า ไอ่พวก male ก็ไว้ใจไม่ได้อ่ะ

ความเห็นที่ 16.2

เคยโดนเหมือนกันครับ  สมัยยังเด็ก ๆ (อายุประมาณ ๑๐ ขวบ) เคยโดนลิงกัดถาก ๆ ไปเหมือนกัน  ตอนนั้นไปหาเพื่อนบ้าน  แล้วบ้านเขาเลี้ยงลิง (ลิงวอกหรือลิงกัง) จำไม่ได้แล้ว  ปกติก็จะขังกรงเอาไว้  แต่วันนั้นเขาเอามันผูกไว้บนราว  เราเข้าไปคุยกับเจ้าของบ้าน  แล้วยืนอยู่ใกล้ ๆ ราวโดยไม่เห็นลิงบนราว  เลยโดนลิงคว้าแขนไปกัด  เจ้าของบ้านรีบไล่ลิงไป  ถึงแผลที่โดนกัดและโดนเล็บลิงจะแค่ถาก ๆ แต่ก็เล่นเอาได้เลือดเลยเหมือนกัน  จากนั้นมา  พอเห็นลิงแล้วเลยระแวง  ไม่เข้าใกล้เลย

แต่กับค่างนี่ไม่ยักระแวงแฮะ  รู้สึกไว้ใจมากกว่า  แต่ก็ไม่เข้าใกล้ถ้าไม่จำเป็นเหมือนกัน

ความเห็นที่ 16.3

แสดงว่าโดนกัดจนจิตกระเจิดกระเจิง เสียศูนย์ตั้งแต่เด็ก ... ฉะนั้นอาจต้องตั้งศูนย์ใหม่โดยไปให้กัดอีกข้างครับ จึงจะสมดุล

การบำบัดแบบนี้ดูเหมือนจะไม่มีผู้ใดกล้าลอง ขนาด มล จันทร์ลา ที่ว่าแน่ เคยโดนก้นขวดช้างจากมือหวานใจ เปรี้ยง! ลงหางคิ้งข้างหนึ่ง จนมีหมายเลขก้นขวดติดตรึงใจตรงขอบขมับมาทุกวันนี้ ไม่เชื่อหากเจอตัวเป็นๆ ก็ลองใช้ศิลปะตะล่อมถามดู แต่อย่าไปเผลอจับพี่ท่านขูดหาหมายเลขที่ว่าไปแทงหวยหละ ... ผมก็ได้แนะนำการบำบัดให้ตามแบบที่ว่ามานั่นแหละครับ คือต้องปรับศูนย์ใหม่โดยให้โดนอีกข้าง ฮ่าๆๆๆๆ แต่ท่านไม่ยักคล้อยตามแฮะ (หน้าตาแบบนี้ ตรูก็ฉลาดเหมียนกันว๊อย)... สงสัยติดสุขกับเสียศูนย์+สูญเสียไปแล้วก็เป็นได้

ความเห็นที่ 17

บาง female ก็ว่า ไอ่พวก males ทำเหมือนจะถลาไปในอากาศ









(กะล่อน) พ้องเสียง ไม่พ้องรูป

ความเห็นที่ 17.1

ต่างไม่ไว้ใจกัน แต่ก็ไม่เคยเข็ด cheeky

ความเห็นที่ 18

ค้านครับที่ว่าพ้องเสียง เพราะ ร่อน กับ ล่อน ใช้ฐานเสียงที่ต่างกัน (ร กับ ล ต่างฐานเสียงกัน แค่คล้ยๆกันเท่านั้น แต่ถ้า ล กับ ฬ จะอยู่ฐานเสียงเดียวกัน) ลป. แสดงว่าทำบ่อยเลยโดน(คนข้างกายกล่าว)เยี่ยงนั้น อิ อิ