ข่าว: ไข่พญานาค

ลิ้งข่าว

ชาวบ้านศรีสะเกษ แตกตื่นไข่ประหลาด 78 ฟอง เชื่อว่า เป็นไข่พญานาค พากันแห่มากราบไหว้บูชา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 155 บ้านเปือย หมู่ที่ 19 ต.พรหมสวัสดิ์ อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่า ได้มีชาวบ้านพบเห็นไข่ประหลาด จำนวน 78 ฟอง

ไข่ประหลาดดังกล่าว มีลักษณะเป็นรูปกลมๆ นิ่ม ๆ เหมือนกับวุ้น มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 1 ซ.ม. และจะมีอยู่หลายสี คือ สีขาวใส และสีชมพู เป็นวาวๆ เรืองแสง จำนวน 78 ฟอง

ชาวบ้านต่างพากันเชื่อว่า เป็นไข่พญานาค พร้อมทั้งอ้างว่า ได้พบเห็นรอยเลื้อยคล้ายรอยพญานาคที่บริเวณใต้ถุนบ้านหลังดังกล่าว จากนั้นจึงได้พากันกราบไหว้บูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งบางคนก็ได้ใช้โทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกกันอย่าง คึกคัก นางสุวรรณา เกษา อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 155 บ้านเปือย ต.พรหมสวัสดิ์ อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว กล่าวว่า ในคืนวันที่ 27 ก.ค. 54 ที่ผ่านมา ตนได้ฝันว่า มีพญานาคหัวสีแดง ความยาวประมาณ 2 เมตร เลื้อยเข้ามาบริเวณบ้าน ที่อยู่กลางทุ่งนา และได้มาขออาศัยอยู่ที่บ้านของตน และได้ฝากลูกไว้กับตน จำนวน 78 ตัว พอตื่นขึ้นมาตอนเช้า พบไข่ประหลาดดังกล่าวนั้น ตอนแรกตนคิดว่า เป็นแค่ไข่หอยทาก จากนั้นจึงได้นำไปล้างน้ำ แต่ปรากฏว่า ไข่ดังกล่าวมีหลายสี และมีแสงเรืองรองระยิบระยับ ซึ่งตนเชื่อว่า เป็นไข่พญานาค ตามที่ได้มาเข้าฝันตน อย่างแน่นอน

Comments

ความเห็นที่ 1

ความเห็นที่ 2

ลูกบอลเจลสีบวมน้ำ ที่ไว้ปลูกต้นไม้ เจๆ มีขายเต็มเลย ฮาๆๆ

ความเห็นที่ 2.1

ตลึง !!!! พบไข่สัตว์ประหลาดจำนวนมาก มีลักษณะนิ่ม กลม มีหลายสี ขายที่เจเจ

ความเห็นที่ 3

Thailand Only !

ความเห็นที่ 4

ที่นี่ประเทศไทย

ความเห็นที่ 5

เห็นเด็กเขาคุยกัน..ผมก็งง.คิดไปเรื่อย 555 น่าตื่นเต้นดีอยากเห็นตอนเป็นตัวจริงวุ้น..ว่าจะเป็นตัวอะไรตามมาอีก

ความเห็นที่ 6

ถาม Google ดู  คีย์คำว่า  "Magic crystal soil"  โห ไข่พญานาคออกมาเพียบ

ความเห็นที่ 6.1

กลัวเหมือน ..นมกระแตอีกsmiley

ความเห็นที่ 6.1.1

yes

ความเห็นที่ 6.1.2

yes

ความเห็นที่ 7

555 นี่ล่ะ คนไทย เจออะไรไหว้ไว้ก่อน

ความเห็นที่ 8

เห็นข่าวเมื่อเช้า ..แล้วอายแทน คนอิสาน เฮ้อ ไม่อยากพุดมาก

ความเห็นที่ 8.1

ไม่น่าอายหรอกครับพี่คำนวน คนไม่รู้ย่อมไม่ผิด ชาวบ้านแถวนั้นไม่ใช้ปุ๋ยแบบนี้หรอกครับ ที่น่าอายน่าจะเป็นพวกที่เอาข่าวมาลงนั่นแหละน่าอายที่สุด แทนที่จะหาข้อมูลก่อนแล้วชี้แจงให้ชาวบ้านเข้าใจ แต่กลับเอาเรื่องที่ชาวบ้านไม่รู้มาขายข่าว อนาจยิ่งนัก นักข่าวไทย

ความเห็นที่ 8.1.1

เห็นด้วยครับ ว่านักข่าวควรจะเป็นคนที่ขายหน้ามากกว่า อยากแต่จะขายข่าว แต่ไม่ได้พยายามค้นคว้าสอบถามต่อเลย ของที่เป็นวิทยาศาสตร์ก็จะยังคงเป็นของลึกลับบนสื่อต่างๆต่อไปอีกนานเลย

ความเห็นที่ 9

มาสารภาพว่า ผมก็พึ่งเคยเห็น !!

ความเห็นที่ 10

เอ็มบริโอ มันอยู่จุดไหนครับ ........ ตึงโป๊ะ !

ความเห็นที่ 11

เพราะวัฒนธรรมท้องถิ่นหรือเปล่าครับ ทำให้ความเชื่อมันฝังรากลึก จนชาวบ้าน ลืมมองความเป็นจริงไป

ความเห็นที่ 11.1

วัฒนธรรมท้องถิ่นมีส่วนเยอะครับ มันมีทั้งส่วนที่ดีงามและส่วนที่งมงาย แต่การให้ความรู้ความเข้าใจมีส่วนสำคัญอย่างมาก จะปล่อยให้เขาเข้าใจแบบผิดๆตลอดไปก็คงไม่ใช่ จะรอแต่ให้ทางราชการมาให้ความรู้ โดยที่ไม่ช่วยเหลืออะไรเลย ผมว่ามันก็ไม่ใช่ เราล้าหลังประเทศอื่นเขาเพราะส่วนหนึ่งเรา(คนส่วนใหญ่)ไม่ใส่ใจที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมนั่นแหละ ชาวบ้านที่มาดูสังกตุดูซิครับว่าน่าจะมีความรู้ไม่มาก(ขออภัยนะครับไม่ได้ดูถูกชาวบ้านจริงๆ) แต่มีใครไปให้ความรู้กับเขาหรือเปล่า แค่เอาของจริงไปให้เขาดูเขาก็รู้แล้ว แต่ไม่มีใครทำ (ผู้ว่า นายอำเภอ นายกอบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พวกนี้งมงายที่สุด) เขาไม่ลืมมองความจริงหรอกครับ แต่ ! เขาไม่เคยเห็นของจริงมากกว่า  

ความเห็นที่ 12

มันทำให้ผมนึกถึงเหตุการณ์หนอน cool fever เลย ....

ความเห็นที่ 13

ตั้งแต่เห็นภาพแรกก็คิดถึงวุ้นที่ใช้ปลูกต้นไม้เลย แรกๆเห็นเอามาปลูกพลูด่างอยู่เป็นช้นเล็กๆ ตอนหลังก็มาเห็นเป็นเม็ดกลมดิ๊กหลากสีแบบนี้

ความเห็นที่ 14

ยังงี้ต้องเก็บไว้ฟักนะเออ ... 555+

ความเห็นที่ 15

เห็นด้วยกับคุณตุ้มค่ะ ชอบสร้างกระแสให้ใหญ่โต ทั้งที่ไม่น่าจะใช่เรื่องจริง ก่อนหน้านี้เด็กๆที่โรงเรียนอนุบาลศรีสะกษซื้อมาแช่น้ำเล่น(แล้วเรียกว่าน้ำตานางเงือก)มีเด็กกินเข้าไปจนทางโรงเรียนประกาศห้ามซื้อและตำรวจสั่งห้ามขายให้กับเด็ก(ลูกสาวเรียนที่อนุบาลเล่าให้ฟังค่ะ)และเด็กโตแถวบ้านซื้อมาปาเล่นอย่างสนุกเลย

ความเห็นที่ 16

^
เหตุการณ์นี้อาจเป็นเด็กแกล้งอำผู้ใหญ่ก็ได้นะเนี่ย อิอิ
พอเรื่องมันใหญ่โตเลยไม่กล้าเฉลยความจริง

ความเห็นที่ 17

55555++  ไม่เชื่อ...อย่านับถือ  ++55555