กระทู้-07485 : ไปเที่ยวน้ำตกห้วยยางนานมาแล้วก็เอารูปเก่าๆมาฝากนะครับ

Home » Board » ท่องเที่ยว

ไปเที่ยวน้ำตกห้วยยางนานมาแล้วก็เอารูปเก่าๆมาฝากนะครับ

ไม่ได้เข้ามาโพสกระทู้นานแล้วครับ วันหยุดยาวๆ ขุดรูปที่เที่ยวมานานแล้วมาทำกระทู้ที่นี่บ้าง เดี๋ยวจะลืมกันไปนะครับ สาระไม่ได้มีอะไรเอาเป็นว่ามาชมกันเปลี่ยนบรรยากาศบ้างครับ ไม่รู้ว่าเคยไปกันบ้างหรือยังครับ
JJ approve [ 16 เม.ย. 2550 18:20:58 ]
TravelPics_reply_25454.jpg
ความคิดเห็นที่: 1
อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอบางสะพาน อำเภอทับสะแก  และอำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในส่วนที่แคบที่สุดของประเทศ ซึ่ง ได้รวมจุดเด่นรอบๆ  วนอุทยานน้ำตกห้วยยางผนวกเข้าด้วยกัน ซึ่ง ได้แก่ น้ำตกที่สวยงามหลายแห่ง ตลอดจนมีสัตว์ป่านานาชนิด เป็นอุทยานแห่งชาติที่พร้อมด้วยป่าเขา น้ำตก ชายหาด รวมมี เนื้อที่ประมาณ 100,625 ไร่ หรือ 161 ตารางกิโลเมตร ในปี 2530 กรมป่าไม้ได้รับแจ้งจากสำนักงานป่าไม้เขตเพชรบุรีตามหนังสือ ที่ กษ 0714 (พบ)/825 ลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2530 แจ้งว่า ได้รับหนังสือจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ ปจ 0009/940 ลงวันที่ 16 มกราคม 2530 ส่ง รายงานการตรวจดูแลป่าสงวนแห่งชาติของสำนักงานป่าไม้อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ว่า ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าทับสะแก มีน้ำตกที่สวยงาม 2 แห่ง สมควรจัดตั้งเป็นวนอุทยาน สำนักงานป่าไม้เขตเพชรบุรีจึงได้ให้เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ปจ.3 (ทับสะแก) ออกไปสำรวจข้อมูลรายละเอียดแล้ว ปรากฏว่า พื้นที่ดังกล่าวมีน้ำตกขาอ่อน (ทับมอญ)  และน้ำตกห้วยหินดาดเหมาะสมจัดตั้งเป็นวนอุทยานเพื่อรักษาสภาพป่าไม้ และต้นน้ำลำธารอันสวยงามนี้ไว้ ซึ่ง  นายธำมรงค์ ประกอบบุญ ผู้อำนวยการกองอุทยานแห่งชาติ ได้มีบันทึกลงวันที่ 28 พฤษภาคม 2530 เสนอกรมป่าไม้เห็นควรจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ เพื่อคุ้มครองรักษาต้นน้ำลำธารนี้ไว้

กองอุทยานแห่งชาติได้มีหนังสือที่ กษ 0713/1673 ลงวันที่ 9 มิถุนายน 2530 ให้ นายสินธุ์ มะลิวัลย์ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ 4 หัวหน้าวนอุทยานน้ำตกห้วยยาง ทำการสำรวจเบื้องต้นบริเวณน้ำตกทั้ง 2 แห่ง ผลการสำรวจตามหนังสือวนอุทยานน้ำตกห้วยยาง ที่ กษ 0713(หย)/161 ลงวันที่ 14 กันยายน 2530 เห็นควรผนวกป่า และน้ำตกทั้ง 2 แห่ง เข้ากับวนอุทยานน้ำตกห้วยยาง จัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้ ยืนนานต่อไป ต่อมากองอุทยานแห่งชาติได้มีหนังสือที่ กษ0713/2613 ลงวันที่ 8 กรกฎาคม 2531 ให้ วนอุทยานน้ำตกห้วยยางสำรวจพื้นที่หาดวนกรเพื่อผนวกเป็นอุทยานแห่งชาติด้วย ตามคำแนะนำของ นายกษม รัตนไชย ผู้ช่วยป่าไม้เขตเพชรบุรี ผลการสำรวจตามหนังสือวนอุทยานที่ กษ 0713(หย)/148 ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2531 เห็นควรผนวกป่าวังด้วน และป่าห้วยยาง (หาดวนกร) เข้ากับพื้นที่ทั้งหมดจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติเช่นกัน

จากการไปตรวจราชการในท้องที่สำนักงานป่าไม้เขตเพชรบุรีของ นายยุกติ สาริกะภูติ รองปลัดกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมป่าไม้ ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2531 - 2 มกราคม 2532 ได้สั่งการให้รวมพื้นที่บริเวณหาดวนกรเข้าเป็นอุทยานแห่งชาติ  และในการประชุมผู้อำนวยการกองในสังกัดกรมป่าไม้ เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2532 ได้พิจารณาให้ผนวกพื้นที่ป่าห้วยยาง และสวนป่าห้วยยาง (พื้นที่ติดต่อกับหาดวนกร) เป็นอุทยานแห่งชาติด้วย

กองอุทยานแห่งชาติจึงได้ดำเนินการผนวกบริเวณพื้นที่ป่าน้ำตกขาอ่อน น้ำตกห้วยหินดาษ  และวนอุทยานน้ำตกห้วยยางในป่าทับสะแก ท้องที่ตำบลธงไชย อำเภอบางสะพาน ตำบลอ่างทอง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  และป่าวังด้วน ป่าห้วยยาง ท้องที่ตำบลห้วยทราย อำเภอเมือง  และตำบลห้วยยาง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมเนื้อที่ ทั้งหมดประมาณ 124,300 ไร่ หรือ 198.88 ตารางกิโลเมตร (ทั้งนี้รวมที่เป็นพื้นน้ำด้วย 15.36 ตารางกิโลเมตร) ให้เป็นอุทยานแห่งชาติตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504

ต่อมากองอุทยานแห่งชาติมีความเห็นว่า พื้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยางซึ่ง มีบริเวณน้ำตกขาอ่อน น้ำตกห้วยหินดาษ  และวนอุทยานน้ำตกห้วยยางมีพื้นที่เชื่อมติดต่อกันโดยตลอด ส่วนบริเวณป่าวังด้วน และป่าห้วยยาง (หาดวนกร) มีพื้นที่ไม่ติดต่อกัน เพื่อความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ในการดูแลรักษา และควบคุม จึงให้แยกเป็น 2 อุทยานแห่งชาติ คืออุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง  และอุทยานแห่งชาติหาดวนกร เพื่อคุ้มครองรักษาต้นน้ำลำธารไว้ และอนุรักษ์ทรัพยากรให้ยืนนานต่อไป

ปัจจุบันอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 แล้ว ประกอบด้วยพื้นที่ทั้งหมด 100,625 ไร่ โดยได้ตราพระราชกฤษฎีกากำหนดที่ดินป่าทับสะแก ในท้องที่ตำบลห้วยยาง ตำบลเขาล้าน ตำบลแสงอรุณ ตำบลนาหูกวาง ตำบลอ่างทอง อำเภอทับสะแก  และตำบลชัยเกษม อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 108 ตอนที่ 215 ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2534 เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 70 ของประเทศไทย

 ลักษณะภูมิประเทศ    
อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยางประกอบด้วยเทือกเขาสูงติดต่อกัน มีพื้นที่อยู่บนเทือกเขาตะนาวศรี ส่วนใหญ่จะเป็นเนินเขาสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 100-1,200 เมตร โดยมียอดเขาหลวงเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด เป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำที่เกิดจากสันเขากั้นเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศสหภาพพม่า ได้แก่ คลองอ่างทอง คลองแก่ง คลองทับสะแก คลองจะกระ คลองไข่เน่า คลองตาเกล็ด คลองห้วยยาง คลองห้วยมา  และคลองหินจวง ลักษณะดินเป็นดินร่วนปนทราย  และหินเป็นหินแกรนิต และหินลูกรัง ส่วนด้านทิศตะวันออกติดกับพื้นที่ราบ และชายทะเลอ่าวไทย
 ลักษณะภูมิอากาศ    
พื้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยางตั้งอยู่ในเขตภาคใต้ของประเทศไทย  และมีพื้นที่อยู่ใกล้ทะเล ลักษณะใน แต่ละฤดูกาลจึงไม่แตกต่างกันมากนัก สภาพภูมิอากาศแบ่งออกเป็น 3 ฤดูกาล คือ
ฤดูฝน เริ่มต้นเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม เป็นช่วงที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทย  และยังมีร่องความกดอากาศต่ำพัดผ่านภาคใต้เป็นระยะๆ  ต่อจากนั้นถึงเดือนพฤศจิกายนซึ่ง เป็นระยะแรกที่ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศไทย ทำให้ยังคงมีฝนตกชุกต่อเนื่องจนถึงเดือนธันวาคม ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยตลอดปีมากกว่า 1,100 มิลลิเมตร
ฤดูหนาว เริ่มตั้ง แต่เดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่ง เป็นช่วงที่ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศไทย ทำให้อุณหภูมิลดลงทั่วไป  และมีอากาศหนาวเย็นเป็นครั้งคราว โดยอุณหภูมิจะลดลงต่ำสุดในเดือนธันวาคม และมกราคม  แต่เนื่องจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติอยู่ด้านซ้ายฝั่งตะวันออกของภาคใต้ อุณหภูมิจึงลดลงเพียงเล็กน้อย อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดในเดือนมกราคม 20 อาศาเซลเซียส
ฤดูร้อน เริ่มต้นตั้ง แต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงเปลี่ยนฤดู ระยะนี้เป็นช่องว่างของลมมรสุมหลังจากสิ้นฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะเริ่มสูงขึ้น อากาศจะเริ่มร้อนโดยเฉพาะในเดือนมีมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดในเดือนเมษายนประมาณ 29 อาศาเซลเซียส อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี 27 อาศาเซลเซียส
 พืชพรรณ และสัตว์ป่า    
ประเภทของป่าที่พบในพื้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยางประกอบด้วย ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบเขา  และป่าดิบแล้ง มีพันธุ์ไม้จำพวก ตะเคียน เสลา ตะแบก ยาง ยูง ยมหอม ยมป่า ขนาน ไข่เน่า ไทร พืชพื้นล่างเป็นไผ่ชนิดต่างๆ  
พื้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยางซึ่ง เป็นภูเขาลาดชันเป็นเนินเขาสูงติดต่อกัน มีสัตว์ป่านานาชนิดอาศัยอยู่ทั่วไป ได้แก่ ช้างป่า หมีควาย หมีหมา เลียงผา เสือดำ ค่าง ชะนี ลิงกัง หมูป่า เม่น เก้ง กระรอก ค้างคาว  และนกนานาชนิด ได้แก่ ไก่ป่า ไก่ฟ้า นกกาฮัง นกเขาเปล้า นกขุนทอง นกปรอด ฯ ลฯ  นอกจากนี้บนยอดเขาหลวงยังมีปูเจ้าฟ้า ( Phricotelphrsa sirinthorn )
  อ้าอิงจาก เวปอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยางนะครับ
http://www.dnp.go.th/parkreserve/asp/style2/default.asp?npid=210&lg=1
JJ approve [ 16 เม.ย. 2550 18:26:42 ]
TravelPics_reply_25455.jpg
ความคิดเห็นที่: 2
นานไปเสียหน่อยจำไม่ค่อยได้นะครับ ทางเดินขึ้นก็มีแผนที่บอกไว้
JJ approve [ 16 เม.ย. 2550 18:28:04 ]
TravelPics_reply_25456.jpg
ความคิดเห็นที่: 3
ป้ายเยอะดีครับที่นี่ผมชอบตรงที่มีป้ายบอกไว้เยอะ และดูเป็นระเบียบดีครับวันที่ไปจำได้ว่าคนไม่ค่อยเยอะเลยหรือไม่เป็นที่นิยมก็ไม่รู้
JJ approve [ 16 เม.ย. 2550 18:29:26 ]
TravelPics_reply_25457.jpg
ความคิดเห็นที่: 4
มี แต่ป้ายถ่าย แต่ป้าย แต่ก็ดีนะครับ อ่านแล้วได้อะไรดี
JJ approve [ 16 เม.ย. 2550 18:30:20 ]
TravelPics_reply_25458.jpg
ความคิดเห็นที่: 5
เดี๋ยวจะหาว่าพามาดูป้าย นะครับไปน้ำตกก็ต้องมีปลา ปลาพลวง นะครับมีอะไรรอบตัวด้วยที่มาที่ไปก็คงเป็นเราๆ ท่านๆ ที่หลงลืมไว้ปลาเก็บมาให้นะครับเจ้าของไปไหนแล้วก็ไม่รู้คิดว่าน่าจะหลุดออกเองเพราะเหมือนว่าจะไม่แน่นเท่าไหร่ก็หวังไว้นะครับ
JJ approve [ 16 เม.ย. 2550 18:33:33 ]
TravelPics_reply_25459.jpg
ความคิดเห็นที่: 6
อีกชิ้นหนึ่งเก็บเท่าที่พอจะเก็บได้เดี๋ยวไม่ได้เที่ยวครับ
JJ approve [ 16 เม.ย. 2550 18:35:08 ]
TravelPics_reply_25460.jpg
ความคิดเห็นที่: 7
ป้ายอีกแหละครับ  แต่ก็น่าอ่านนะป้ายนี้ไม่อ่านอาจได้เฝ้าน้ำตกได้นะครับ
JJ approve [ 16 เม.ย. 2550 18:36:15 ]
TravelPics_reply_25461.jpg
ความคิดเห็นที่: 8
พามาดูอะไรก็ไม่รู้นะครับ จำไม่ได้ว่าประวัติที่มาของศาลนี่เป็นมาอย่างไรใครพอรู้บ้างครับ  แต่ ถ้าเดินตอนพลบค่ำหน่อยก็ เย็นๆ หลังเหมือนกัน อากาศมันหนาวนะครับ
JJ approve [ 16 เม.ย. 2550 18:38:16 ]
TravelPics_reply_25462.jpg
ความคิดเห็นที่: 9
กระแตไต่ไม้ ที่จริงผมเองไปก็สายแล้วไม่ได้มีโอกาศได้สำรวจอะไรมากครับเลยไม่ได้เจออะไรมากมาย
JJ approve [ 16 เม.ย. 2550 18:39:30 ]
TravelPics_reply_25463.jpg
ความคิดเห็นที่: 10
เก็บเอาเท่าที่พอจะถ่ายมาได้ นะครับ
JJ approve [ 16 เม.ย. 2550 18:40:17 ]
TravelPics_reply_25464.jpg
ความคิดเห็นที่: 11
ที่นี่มีการให้ความรู้ดีนะครับ บางอย่างเช่นมอสก็มีให้อ่านกันว่ามอสเกิดขึ้นได้อย่างไร
JJ approve [ 16 เม.ย. 2550 18:41:39 ]
TravelPics_reply_25465.jpg
ความคิดเห็นที่: 12
รู้สึกว่าคนอ่านจะรู้สึกประทับใจเลยอยากเป็นส่วนหนึ่งของมอสไปด้วยเสียเลย
JJ approve [ 16 เม.ย. 2550 18:42:55 ]
TravelPics_reply_25466.jpg
ความคิดเห็นที่: 13
มาดูผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการของผมบ้างนะครับ ว่ากำลังทำอะไรอยู่
JJ approve [ 16 เม.ย. 2550 18:44:02 ]
TravelPics_reply_25467.jpg
ความคิดเห็นที่: 14
ส่องกิ้งกืออยู่นั่นเอง ที่จริงกิ้งกือแถวบ้านก็มี แต่คงไม่สวยเท่านี้นะ
JJ approve [ 16 เม.ย. 2550 18:45:16 ]
TravelPics_reply_25468.jpg
ความคิดเห็นที่: 15
ที่วัดปริมาณน้ำฝน สวยดีครับ
JJ approve [ 16 เม.ย. 2550 18:46:23 ]
TravelPics_reply_25469.jpg
ความคิดเห็นที่: 16
ดอกไม้ก็มีบ้างนะครับ น้อยมากหรือผมเองมีเวลาน้อยก็ไม่รู้
JJ approve [ 16 เม.ย. 2550 18:47:33 ]
TravelPics_reply_25470.jpg
ความคิดเห็นที่: 17
ป้ายอีกทีครับ กระทู้ป้ายจริงๆ
JJ approve [ 16 เม.ย. 2550 18:48:16 ]
TravelPics_reply_25471.jpg
ความคิดเห็นที่: 18
ขึ้นด้วยป้ายจบด้วยป้ายก็แล้วกันครับ วาดรูปได้โขอยู่ แต่ก็ยังอีกเยอะเลยโดนลูกแซวทุกวัน ช้าๆ ได้พร้าเล่มงามนะครับ
JJ approve [ 16 เม.ย. 2550 18:50:00 ]
ความคิดเห็นที่: 19
ช่วยเล่าเรื่องการเดินทางหน่อยครับ อยากรู้ว่าไปอย่างไร เห็นว่าไม่ไกลนัก เผื่อไปเดินหนาวๆ  ตอนกลางคืน
เสือหัวดำ [ 16 เม.ย. 2550 20:56:55 ]
ความคิดเห็นที่: 20
บอกตามตรงนะครับคุณ เสือหัวดำผมเองเป็นผู้หนึ่งที่มีปัญหาเรื่องการจำทางอย่างมาก  ถ้าไปที่ ที่ไม่คุ้นหรือนานๆ ไปทีจะจำทางไม่ได้เพราะมัว แต่มองทางอย่างเดียวครับ ที่ไปได้ก็เพราะมี ผู้นำทางชีวิต ให้ครับคนนี้เป็นคนบอกทางผมตลอดมาสิบกว่าปีแล้วครับ  แต่ค้นเจอลองอ่านดูนะครับว่าพอจะเข้าใจบ้างหรือไม่ครับ
 บ้านกรูด เป็นสถานที่หนึ่งที่อยู่ในอำเภอบางสะพาน อำเภอเกือบสุดท้ายของจังหวัดประจวบ โดยตามหลักภูมิศาสตร์แล้ว จะอยู่ในเขตภาคตะวันตก จาก กทม. -บ้านกรูด จะอยู่บริเวณ หลักกิโมตรที่ 382  และเข้าไปอีกประมาณ 10 - 15 กม.   เส้นทางการเดินทางนั้นสามารถเดินทางมาได้หลายวิธีนะครับ เช่น รถยนต์ รถไฟ หรือแม้กระทั้งเรือ(ยังไม่มีใครเคยลองเป็นเรื่องเป็นราว)  สำหรับรถไฟนั่น  ถ้าโดยขบวนปกติ จะมีแวะบ้านกรูดประมาณ วันละ  2 เที่ยว คือเวลาประมาณช่วงบ่าย 2    และช่วงประมาณ ตี 1 นะครับ

   สำหรับรถโดยสารประจำทาง สามารถติดต่อขอขึ้นได้ที่สายใต้ใหม่   แต่สำหรับรถส่วนตัว นั้นให้คุณใช้เส้นทาง จากสายพระราม 2 (ธนบุรี-ปากท่อ) ถนนเพชรเกษม สายลงทางจังหวัดทางภาคใต้ โดยขับรถผ่านจังหวัดต่างๆ  คือ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม จากนั่นถึงแยกวังมะนาว ให้เลี้ยงซ้ายไปทางตัวจังหวัดเพชรบุรี ตรงไปตามทาง ผ่านอำเภอเขาย้อย(แวะทานอาหารเช้าที่ร้านข้าวแกงแม่ล้วนก่อนถึงแยกทางเข้าเขายอ้ย ได้ครับ) จากนั้น ตรงไปเรื่อยๆ  จะถึงบริเวณทางเข้าเมืองไม่ต้องเข้าครับให้เบี่ยงขวาผ่านหน้าเขาวัง ไปเลย ( แต่ ถ้ามากลางคืน ให้แวะทานอาหารข้าวต้ม เป็นอาหารตามสั่ง อร่อยไม่แพง เพื่อเป็นการพักรถ และตัวคุณ คือให้ตรงเข้าเมืองไปนิดเดียวร้านจะอยู่ซ้ายมือ เป็นร้านไม้ เก่าๆ   แต่อร่อย )   จากนั้นขับตรงมาเรื่อยๆ  จนมาถึงทางแยก ระหว่างทางไปชะอำ หัวหิน หรือทางบายพาส   ถ้าไม่รีบนัก ให้เข้าไปหาไรทาน พักรถก่อนได้นะครับ   แต่ ถ้าไม่ต้องการก็ให้ขับเข้าบายพาส เพราะตอนนี้ทางดีมาก(ผมไปมาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา)   แต่ ถ้าขับกลางคืนระวังอันตรายหน่อยนะครับเพราะถึงจะมีแหล่งชุมชนบ้างในบางช่วง แต่ก็ยังมืด อันตราย  และมีรถใหญ๋วิ่งเยอะ  ตรงไปจนถึงแยกปราณบุรี พอถึงแยก ถ้ามาจากบายพาส ให้เลี้ยวขวา  และตรงไปจะเจอไฟแดงแรก พอหลุดไฟแดงให้ชิดซ้าย เข้าพักรถ และคน  ที่ปั้มน้ำมันเชลส์ เพราะห้องน้ำสะอาด ใหญ่  และที่จอดรถสะดวก

        จากนั้นออกเดินทางต่อ คราวนี้ ถ้าไม่เหนื่อยให้วิ่งยาวเลย(ทำใจนะครับ เหลือระยะทางประมาณ 100 กว่ากิโลนิดๆ  เปรียบเทียบประมาณ กทม.ไปพัทยา ครับ) ให้ขับไปตามเส้นทางลงภาคใต้เรื่อยๆ  จนถึงเข้าอำเภอกุยบุรี  และถึงทางแยก 4 แยก เข้าตัวจังหวัดประจวบ ถึงนี้ก็อีกประมาณ 60 กิโล เห็นจะได้ จกาจุดนี้อีกไม่ไกล และครับ ขับตรงต่อไปเรื่อยๆ  อีกประมาณ 30 กิโล จะเข้าเขตอำเภอทับสะแก (จากจุดนี้อีกประมาณ 15-20 กิโลจะถึงปากทางเข้า บ้านกรูด ครับ )  สังเกตุง่ายๆ  นะครับ ซ้ายมือจะเจอปั้มเอสโซ่ทางซ้ายแสดงว่าใกล้ถึง หรือขับผ่านอำเภอทับสะแกมาได้สัก 5- 10 กิโล จะเจอรูปปูนปั้นรูปหงษ์ เป็นทางเข้าวัด  ทางฝั่งขวา (ฝั่งเข้า กทม.) แสดงว่าใกล้ถึง จากนั้นตรงไปตามทางครับ จะเจอ  รพ. ทับสะแก(ทางขวา) ใกล้ถึงมากแล้ว   ขับตรงไปอีกนิด จะเป็นลักษณะทางโค้ง ทางอ้อมเขาประมาณ 3- 4 โค้ง ให้เริ่มสังเกตุ ป้ายเล็กๆ  ข้างทาง เช่น  พระพุทธสิริกิตติชัย ศาลกรมหลวงชุมพรเขตต์อุดมศักดิ์ หาดบ้านกรูด เป็นต้น (มองฝั่งขวาจะเห็นคล้ายๆ  เป็นเสาของโทรศัพท์ หรือของการไฟฟ้านี่แหละครับผมไม่แน่ใจจะมีรั่วล้อมอยู่ริมถนน  และใลก้ๆ  จะมีป้ายของทางเข้าน้ำตกขาอ่อน )ให้คุณขับชิดซ้ายได้เลยแสดงว่าใกล้ถึงทางเบี่ยงที่จะเข้าหาดบ้านกรูด   ถ้าคุณหลุดโค้งสุดท้ายจะมีทางเบี่ยง เป็นทางเข้าชุมชน เหมือนกันเวลาคุณเข้าเขต อำเภอกุยบุรี  และอำเภอทับสะแก  ให้คุณเบี่ยงเข้าไปได้เลย ขับตรงไปอีกนิด จะเจอปั้มนำมันเก่าๆ  (ปตท) เล้ก พอเลยปั้มจะเห็นซอยทางเข้าให้คุณเลี้ยวซ้ายเข้าได้เลย

   จากทางเข้าให้คุณขับตรงไปตามเส้นทางหลักของถนนเรือ่ยๆ   แต่เตือนนิดนะครับ ถ้ามากลางคืนทางจะมืดมาก( โดยปกติผมจะเดินทางกลางคืนออกจาก กทม.ประมาณ 3 ทุ่ม ถึงประมาณ ตี 1 )  แต่ ถ้ามากลางวันก็ต้องระวังเช่นกันเพราะถนนไม่ค่อยดีถึงจะลาดยางก็เถอะ  จากนั้นขับตรงเข้าไปเรื่อยๆ  จะเจอทางรถไฟ ให้คุณขับข้ามทางรถไฟ  ถ้ากรณีมาถึงบ่าย  และจะแวะซื้อของก่อน ก็ให้เลี้ยงซ้ายขนานทางรถไฟ  และตรงไปเรื่อยๆ  จะเจอตลาด (ฤช่วงเช้าจะมีตลาดขายของสด  และอาหารเข้าถึง 9.00 น.  แต่ร้านขายของต่างๆ  ที่เป็นตึกแถวจะเปิดอยู่)  โดยร้านจะมีร้านขายยา อาหาร ขนม เรองเท้า สบู่ ครีมกันแดด โลชั่นต่างๆ  อยู่หลายร้านเลือกเอานะครับ(โดยส่วนตัวผมจะซื้อร้านข้างสถานนีรถไฟเพราะเยอะดี) จากนั่น ถ้าซื้อเสร็จ ให้ขับย้อนออกมา จะเจอซอยเล็กๆ  ข้างๆ  ร้านขายแห ขายหม้อ ให้เลี้ยวซ้ายไปเลยครับ  และตรงไปจนสุดชายหาดประมาณ 1 กม.

แต่ ถ้าคุณไม่ซื้อของ พอขับข้ามทางรถไฟ จะมีทางให้ตรงไปก็ให้ตรงไปได้เลย (จะใช้เป็นทางให้รถบัสวิ่งนะครับ)  ขับไปตามทางจะเจอโค้งซ้ายให้ซ้ายตามไป  และตรงไปจะเจอสามแยก(จะไปเจอทางที่มาจากตลาด) จะมีป้ายบอกรีสอร์ทต่างๆ  เยอะมาก ก็ให้คุณเลี้ยวขวาไป และตรงไปจนสุดหาด คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณนะครับ ว่า จะไปทางไหน

จากคุณ : torti
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ก็จะมีหลายที่นะครับ ผมขอเริ่มตั้ง แต่

อ่าวมะนาว -   เป็นสถานที่พักที่ยังเป็นธรรมชาติอยู่มาก และราคาถูก เป็นของทหารครับ

หว้าก้อ  -   เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงด้านวิชาการ โดยจะมี อุโมงค์ใต้ทะเล สวยมาก  และมีห้องดูดาว (ทั้ง 2 แห่งไม่มีค่าบริการการเข้าชม แต่งอย่างใด) หรือจะไปพักผ่อนเดินเล่นริมทะเล มีอาหาร และของที่ระลึกจำหน่าย

ด่านสิงขร  และ บริเวณเขตการค้าเศรษฐกิจชายแดนไทย -พม่า บิรเวณนี้ขับรถเข้าไปประมาณ 20 กิโลนะครับจะอยู่เกือบติดชายแดนไทย-พม่าจะมีของขายของจำหน่ายประเภทของใช้ทั่วไปจากพม่า และของป่า เช่น กล้วยไม้ เป็นต้น (ระวังนะครับผิดกฎหมาย)

อุทยานแห่งชาติ หาดวนกร  เป็นชายหาดที่สวยงามมาก เป็ฯ ของอุทยานแห่งชาติ ขับรถเข้าไปลึกหน่อย  แต่สวยมากครับ

น้ำตกห้วยยาง  -  อยู่ในเขตอำเภอทับสะแก (ทางเข้ากทม)  ทางเข้าถนนดีมากนำตกมีหลายชั้น  และมีทางเดินศึกษาธรรมชาติ นำตกบางชั้นจะมีปลาพลวงอาศัย และบางชั้นจะมีชั้นหินให้สไลด์ลื้น ลงมาได้  ทางเข้าก่อนถึงตัวน้ำตกจะมีน้องๆ  นักเรียนทำกระเป้าผ้าดิบ เขียนลายด้วยสีเป็นรูปนกต่างๆ   อุดหนุนนักเรียนหน่อยนะครับ เขียนสวยจริงๆ  

น้ำตกขาอ่อน -  (ทางเข้ากทม) อยู่เยี้องๆ  กับทางเข้าบ้านกรูด  นำตกนี้ เข้าไปค่อนข้างลึกนะครับ สภาพนำตกถือว่าสมบูรณ์มาก เพราะการเข้าไปค่อนข้างสำบาก เข้าไปลึก ควรใช้รถ  4*4 เท่านั้น  แต่สวยมาก

บิรเวณบ้านกรูด ก็จะมี

เขาธงชัย  ที่ประดิษฐานพระพุทธสิริกิตติชัย ศาลกรมหลวงชุมพรเขตต์อุดมศักดิ์  และพระเจดีย์เก้ายอด ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ

เกาะรำล่า  เป็นเกาะที่ มความสวยงาม สามารถเน้ดูประกำรังได้ ซึ่ง การดำน้ำในจุดนี้ราคาไม่แพง มีจุดเด่นคือเป็นประการังกลางน้ำ ที่มีเพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทย

ทางไปอำเภอบางสะพาน

นำตกไทรคู่ เป็นน้ำตกที่สวย และสมบูรณ์มาก จำเป็นต้องใช้รถ 4*4 เข้าไปเท่านั้น

อ่าวแม่รำพึง  และอ่าวทองหลาง เป็นอ่าวที่คนเที่ยวน้อย อยู่บริเวณอำเภอบางสะพาน ห่างจากบ้านกรูดประมาณ 30 กิโล

ถ้ำม้าร้อง อยู่ในเขตวัดเขาถ้ำม้าร้อง ภายในถ้ำมีความสวยงามของหินงอก หินย้อย โดยเฉพาะรูปพญานาค  1 คู่ ที่อยู่บริเวณพื้นถ้ำ  และมีมีพระพุทธรูปตลอดแนว อีกทั้งมีบ่อน้ำทิพย์ที่นำไปเฉลิมฉลองงานในหลวง   และเป็นบ่อน้ำทิพย์ที่ใช้ในพิธีสำคัญของจังหวัด  ในบริเวณถ้ำม้าร้องยังมีอีกหลายถ้ำ ให้เดินศึกษา จะเดินสำรวจให้ติดต่อกับทางวัด เพื่อขอให้เปิดไฟในถ้ำ

เกาะสิงข์ เกาะสังข์ เกาะทะลุ เป็นแหล่งดำน้ำที่มีรชอื่เสียงของจังหวัดด้วยรูปลักษณะของเกาะ  และความสมบูรณ์อยู่มาก สามารถติดต่อขอดำน้ำได้โดยตรงหรือผ่านทางรีสอร์ทที่ท่านเข้าพัก (บ้านกลางอ่าวมีบริการเป็นสือกลางให้ โดยมิได้มีการบวกราคาเพิ่มเติม)โดยเป็นการดำได้ทั้ง สกินไดร์ฟ  และสกูบ้าไดร์ฟ)

นี่คือข้อมูลคร่าวๆ  เบื้องต้นนะครับ ที่เหลือลองสอบถาม และหาได้จากทางเว็บไซต์ หรือ ทางรีสอร์ท หรือทางท่านอื่นๆ ได้นะครับ  

ขอให้เดินทางไป-กลับโดยสวัสดิภาพ  และเที่ยวให้สนุกนะครับผม

จากคุณ : torti

อันนี้จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
การเดินทาง
ทางรถยนต์ จากกรุงเทพฯ  ใช้เส้นทางสายธนบุรี-ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35) ผ่านสมุทรสงครามแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ผ่านเพชรบุรีเข้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หรือจากกรุงเทพฯ  ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านพุทธมณฑล นครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี ถึงประจวบคีรีขันธ์ รวมระยะทาง 281 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง
หากเดินทางโดยรถประจำทาง จากสถานีขนส่งสายใต้ถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี (ถนนบรมราชชนนี) มีบริการรถโดยสารสายกรุงเทพฯ -ประจวบคีรีขันธ์ กรุงเทพฯ -หัวหิน กรุงเทพฯ -ปราณบุรี  และกรุงเทพฯ -บางสะพาน เป็นประจำทุกวัน สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 435-1200, 434-7192
ทางรถไฟ จากสถานีรถไฟหัวลำโพง มีบริการรถไฟไปหัวหิน ปราณบุรี  และประจวบคีรี- ขันธ์ ทุกวัน รายละเอียดติดต่อหน่วยบริการเดินทางการรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 223-7010, 223-7020
ขอบคุณข้อมูลของคุณtorti  และจากการท่องเที่ยวด้วยครับ
JJ approve [ 16 เม.ย. 2550 22:17:54 ]
ความคิดเห็นที่: 21
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
เสือหัวดำ [ 17 เม.ย. 2550 00:24:19 ]
ความคิดเห็นที่: 22
บริเวณใกล้ๆ ที่ทำการอุทยานมี "มหาพรหม" ขึ้นอยู่หลายต้น เป็นดอกไม้วงศ์กระดังงาที่สวยมากชนิดหนึ่งครับ
ผมเคยไปห้วยยางทีหนึ่ง ฝนตก....แทบไม่ได้ดูอะไรเลย
นณณ์ approve [ 17 เม.ย. 2550 21:27:43 ]
ความคิดเห็นที่: 23
ขาอ่อนไปมาเมื่อวันหยุดที่ผ่านมาครับ น้ำไม่มากครับ หน้าแล้งแบบนี้รถเก๋งเข้าได้ครับ (เผื่อใครจะผ่านไป)  แต่ดูจากสภาพต้นไม้ที่ล้มๆ  คาดว่าหน้าฝน น้ำจะหลากมาก....

ตอนนี้น้ำที่น้ำตกเป็นสีชา ปลาที่พบเห็นคร่าวๆ  เป็นปลาตัวเล็กๆ  ไม่พบปลาใหญ่  แต่พบปลาบู่น้ำตกตัวใหญ่ๆ  เป็นคืบเหมือนกัน
คนริมรั้ว๒๕๓๔ approve [ 18 เม.ย. 2550 13:22:14 ]
ความคิดเห็นที่: 24
ทางเข้ามีวัดน้ำตกห้วยยางครับ ว่างๆ ก็ไปทำบุญกันได้ เมื่อก่อนที่น้ำตกนี้จะมีนกแก๊กเชื่องมากจะบินมาต้อนรับคนที่มาเที่ยวน้ำตกครับ แบบว่าบินมาเกาะข้างๆ เพื่อขออาหารเลยอ่ะ เดี๋ยวนี้คงตายไปแล้วมั่ง หลังๆ ไปทีไรไม่เคยเจอเลย
หัดเดิน approve [ 20 เม.ย. 2550 07:52:23 ]
ความคิดเห็นที่: 25
เห็นภาพ คห. 8 แล้วแอบขนลุกนิดๆ  ค่ะ
รู้สึกว่าสัดส่วนของท่านหญิงทางขวาจะผิดส่วนด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้ บรื๋ยยยย
ยายอ้วน approve [ 21 เม.ย. 2550 18:07:34 ]

- ปิดกระทู้ -

www.siamensis.org - Thailand Fish & Nature Explorer
An independent non-profit group
Established 2001
 All Rights Reserved 2001-2010 ©siamensis.org