กระทู้-07657 : จากกท.#7520 คุณอาจอยากรู้จักชายคนนี้"พิทักษ์ โตนวุธ"

Home » Board » สิ่งแวดล้อม

จากกท.#7520 คุณอาจอยากรู้จักชายคนนี้"พิทักษ์ โตนวุธ"

--->> http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=8108&SystemModuleKey=HilightNews&System_Session_Language=Thai

NGO ท้องถิ่นที่พี่นณน์ และพี่ไอ้ลูกทุ่งกล่าวถึง รวมถึงผู้ใหญ่"แวะ"ที่อยู่ในเหตการณ์ครั้งนั้น
ถ้าเปรียบเป็นการรบ ผมคิดว่า Siamensis เป็นฝ่ายบุ๋น NGO และชาวบ้านคือฝ่ายบู๊ คนที่เป็นแนวหน้าจึงเสียชีวิตก่อนเสมอ
ผมขอไว้อาลัยให้กับ"พิทักษ์ โตนวุธ" ผู้ร่วมจุดไฟในการต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อมให้กับชาวบ้านลุ่มน้ำชมภู รวมถึงใครอีกหลายๆ คน
Alakazum approve [ 19 พ.ค. 2550 18:40:55 ]
ความคิดเห็นที่: 1
ร่วมจารึกไว้ในแผ่นดิน
jungle man approve [ 19 พ.ค. 2550 23:55:11 ]
ความคิดเห็นที่: 2
ได้มีโอกาสพาลูกศิษย์ไปเคารพศพท่านมาแล้ว  ขอให้ความตั้งใจของคุณพิทักษ์เป็นผลสำเร็จ
mim4042 approve [ 20 พ.ค. 2550 12:08:52 ]
ความคิดเห็นที่: 3
ลูกปืนคมกว่าอุดมการณ์
tavon approve [ 21 พ.ค. 2550 09:51:51 ]
ความคิดเห็นที่: 4
เสียดาย " คนดี "
FloridaZa approve [ 21 พ.ค. 2550 13:25:53 ]
ความคิดเห็นที่: 5
ในสังคมที่ ‘ไม่มีความเสมอภาค’ ในสังคมที่ ‘คนไม่เท่ากัน’ นั้น ... เราทั้งหลายกำลังเผชิญหน้ากับ ‘สงครามชนชั้น’ อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะ ‘สงครามการแย่งชิงทรัพยากร’ ระหว่างประชาชนธรรมดาที่ร่วมกันเป็นเจ้าของในชุมชน กับฝ่ายที่ต้องการนำทรัพยากรเหล่านั้นไปสร้างกำไรเพื่อคงไว้ซึ่ง ความห่างทางชนชั้นอยู่อีกเรื่อยๆ  และ ถ้าขึ้นชื่อว่า ‘สงคราม’ แล้วล่ะก็ ความสูญเสียก็ต้องเกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา ...  และที่มันถูกจำกัดมุมมองให้เป็นเพียงความสูญเสียธรรมดาๆ  ก็เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วมันมักจะเป็นความสูญเสียของฟากฝั่งของคนที่ไร้อำนาจ - ไร้พลัง เป็นความสูญเสียของฝ่าย ‘ประชาชนธรรมดา’ ที่เป็นปฏิปักษ์กับ รัฐ , นายทุน  และชนชั้นที่ได้ประโยชน์จากสังคมที่ยังเหลื่อมล้ำเป็นอยู่ อย่างในปัจจุบันนี้
ในมุมกลับกัน  ถ้าหาก  ข้าราชการ , นักการเมือง , มหาเศรษฐีร้อยล้าน , ดารา , ชนชั้นสูง , อภิสิทธิ์ชน ... ใครซักคนดันเกิดมา ‘ตายห่า’ แบบฉุกละหุกละก้อ ... นั่นแหละจะเป็นความสูญเสียที่พวกเขาเหล่านั้นเรียกว่าเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ --- มันจะกลายเป็นเรื่องที่กล่าวขวัญกันไปทั้งเมือง คุณจะได้ติดตามอย่างเกาะติดจากการสอพลอชนชั้นเหล่านั้นของสื่อกระแสหลัก กดประสาทให้คุณมีอารมณ์ร่วม ซึ้งแบบว่า ถ้าโคตรพ่อโคตรแม่คุณตาย คุณก็อาจไม่เศร้าซึ้งได้ขนาดนั้น
แต่ ถ้าหากคนติดดิน ตีนดำๆ  ซักคนสองคนหรือมากกว่านั้น ตายในการทำสงครามชนชั้น ตายเพื่อปกป้องห้วยหนองคลองบึง ตายเพื่อแกป้องที่ทำกิน ตายเพื่อปกป้องการแย่งชิงทรัพยากรชุมชนจากนายทุน และรัฐแล้วล่ะก้อ ... การได้เป็นข่าวออกโทรทัศน์ซัก 20 วินาทีในช่วงข่าวภูมิภาคหรือข่าวอาชญากรรม ก็ถือว่าบุญโขแล้ว !

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ‘ประชาชนธรรมดา’ ได้ลุกขึ้นสู้กับการเข้ามาขโมยทรัพยากรจาก รัฐ , นายทุน  และชนชั้นที่ได้ประโยชน์จากสังคมที่ยังเหลื่อมล้ำ  และก็อย่างที่ทราบๆ  กันว่า ‘ประชาชนธรรมดา’ มักที่จะตายอย่างง่ายๆ   และไม่ค่อยได้รับความสนใจนัก จากสังคมส่วนใหญ่ ( เพราะสื่อกระแสหลักของไทยชอบความตายที่ ‘pop’ )
แต่กระนั้นคน หนุ่ม-สาว , เด็ก-แก่ ก็ไม่เลยที่จะคิดหยุดลุกขึ้นสู้ เมื่อพวกเขาหลังชนฝา รวมถึง ‘มนุษย์ผู้ที่มีจิตใจรักความเป็นธรรม’ ทั้งหลาย ก็ไม่เคยคิดที่จะหยุดช่วยเหลือมนุษย์ด้วยกัน เมื่อเห็นเพื่อนร่วมโลกหลังชนฝา ...
‘มนุษย์ผู้ที่มีจิตใจรักความเป็นธรรม’ หลายคนเลือกที่จะเดินบนเส้นทางอันตราย เหมือนกับการเลือกไปสู่หนทางแห่งความตาย ในสมรภูมิแห่งสงครามชนชั้น  เช เกวาร่า , จิตร ภูมิศักดิ์ , วีระชนเดือนตุลา ฯ ลฯ  
และ ‘พิทักษ์ โตนวุธ’ เป็นอีกหนึ่งคน ที่ได้ตายในสงครามชนชั้น , สงครามการแย่งทรัพยากรระหว่าง ‘ประชาชนธรรมดา’  กับ รัฐ , นายทุน  และชนชั้นที่ได้ประโยชน์จากสังคมที่ยังเหลื่อมล้ำ  เมื่อ 6 ปีก่อน ...


พื้นที่บ้านชมภู ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ตั้งอยู่ในหุบเขาบริเวณป่าชายขอบอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง สภาพภูมิประเทศโดยทั่วไป ด้านทิศตะวันออก และทิศเหนือเป็นป่าเขา ส่วนทิศตะวันตก และทิศใต้เป็นพื้นที่ราบ

จากสภาพความสมบูรณ์ทางธรรมชาติของพื้นที่ทำให้บริเวณนี้กลายเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร หล่อเลี้ยงชีวิตราษฎรที่อาศัยอยู่ในภาคเหนือตอนล่าง ราษฎรบ้านชมภูรัก และหวงแหนแผ่นดินอันเป็นมรดกตกทอดจากธรรมชาติ จึงช่วยกันอนุรักษ์ไว้เป็นแหล่งท่องเที่ยว

ที่ผ่านมาชาวบ้านชมภูมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างสงบสุข ท้องฟ้าสว่างสดใสไร้ฝุ่นควัน  ต้นไม้ใบหญ้าเขียวชะอุ่ม จนกระทั่งวันหนึ่งกลุ่มนายทุนซึ่ง เป็นคนในท้องถิ่น และต่างถิ่น มองเห็นช่องทางฉกฉวยผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ ต.ชมพู ไม่นานนักโรงโม่หิน   2 โรง ก็เกิดขึ้นในตำบลที่เคยเงียบสงบ ?



นับ แต่นั้นมาความสงบสุขในดินแดน แห่งนี้ก็มลายหายไป สิ่งที่เกิดขึ้นมาแทนคืความอึกทึกรึกโครมจากเสียงการระเบิดภูเขา  แต่เช้า จดเย็น เสียงรถบรรทุกห้อตะบึงเข้า-ออกตลอดทั้งวัน ฝุ่นละอองจากโรงโม่หินฟุ้งกระจายไปทั่วผืนฟ้าก่อนร่วงหล่นปกคลุมไปทั่วหมู่บ้าน อากาศบริสุทธิ์ กลายเป็นมลพิษทำลายสุขภาพคนในท้องถิ่น

ชาวบ้านที่เคยชินกับสภาพความสงบสุขรับไม่ได้กับกระแสความเจริญที่สร้างความเดือดร้อนให้ชุมชน ในที่สุดชาวบ้านก็หมดสิ้นความอดทน หันหน้าเข้าปรึกษากันเพื่อเรียกร้องความสงบสุขในท้องถิ่นให้กลับคืนมา ไม่ช้าการชุมนุมเรียกร้องความเป็นธรรมก็บังเกิดขึ้น

ปี 2540 ชาวบ้านชมภู หมู่ 3 ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก กลุ่มหนึ่งรวมตัวกันตั้งชื่อกลุ่มว่า คณะกรรมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมลุ่มน้ำชมภู (คอลภ.) มีจุดประสงค์ให้ทางราชการเพิกถอนใบอนุญาตโรงโม่หิน 2 โรง ที่สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ทำลายสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ และแหล่งต้นน้ำลำธาร

การชุมนุมของชาวบ้านอาจไม่บรรลุผลตามเป้าหมาย  หากปราศจากแกนนำหรือที่ปรึกษาที่มีความรู้ด้านกฎหมาย จึงเดินทางไปขอร้อง นายพิทักษ์  โตนวุธ นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะนิติศาสตร์       ประธานชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยรามคำแหง ให้ช่วยเป็นที่ปรึกษาเครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมภู

พิทักษ์ นักศึกษาหนุ่มไฟแรงรับอาสาเป็นแกนนำพาชาวบ้านชมภูไปยื่นหนังสือให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ปลดข้าราชการท้องถิ่นที่ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งให้ประกาศยกเลิกกิจการโรงโม่หิน และให้ขนย้ายของออกภายใน

นอกจากนี้ที่ปรึกษาเครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมภูได้ทำหนังสือร้องเรียนต่อนายอำเภอเนินมะปรางให้ดำเนินการตรวจสอบเอกสารสิทธิในที่ดินบริเวณที่    ตั้งโรงโม่หินใน ต.ชมพู  และ อ.เนินมะปราง

สำนักงานที่ดินอำเภอเนินมะปราง รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับที่ตั้งโรงโม่หินในท้องที่ตำบลชมพู ต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับที่ดินที่ตั้งโรงโม่หิน ที่มี นายประยูร จักรภัทรกุล ปลัดอำเภอเนินมะปรางเป็นประธาน ได้ข้อสรุปดังนี้คือ

ที่ตั้งโรงโม่หินมีนางเป็นผู้ประกอบกิจการระเบิด และย่อยหิน มีกำหนด 5 ปี สิ้นสุดอายุการอนุญาตเดือน ต.ค. 2544 ที่ดินตั้งโรงโม่หินมีหลักฐานการถือครองที่ดิน ส.ค.1 หมู่ที่ 1 ตำบลชมพู อ.เนินมะปราง เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่

แม้จะได้รับคำตอบแล้ว แต่ประเด็นความขัดแย้งยังไม่สิ้นสุด เมื่อฝ่าย คอลภ. เห็นว่า การพิจารณาครั้งนี้ ตัวแทนคณะกรรมชาวบ้านไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมพิจารณาการชี้เขตที่ดิน

พิทักษ์ ได้นำชาวบ้านเข้ายื่นเรื่องต่ออำเภอเนินมะปราง ให้พิจารณาเรื่องเอกสารสิทธิของโรงโม่หินอีกครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2544 คราวนี้คณะกรรมการยอมให้นายพิทักษ์ และแกนนำชาวบ้านเข้าร่วมประชุม ณ ที่ว่าการอำเภอเนินมะปราง
ในวันเดียวกันนั้น เวลาประมาณ 17.00 น. มีคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยาน ยนต์ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ประกบยิง นายพิทักษ์ โตนวุธ แกนนำนักอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมพู ผู้นำชาวบ้านต่อต้านโรงโม่หิน ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับบ้านพร้อมกับ นายแวะ สมใจ ที่บริเวณทางเข้าหมู่บ้าน ชมพู ต.ชมพู อ.เนินมะปราง เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าสาเหตุน่าจะมาจากการที่นายพิทักษ์เป็นแกนนำในการประท้วงโรงโม่หิน ใน ต.ชมพูมาตั้ง แต่ปี 2539  และการเป็นผู้นำในการขับไล่ผู้นำท้องถิ่นคนหนึ่ง
waterpanda [ 21 พ.ค. 2550 15:50:15 ]
ความคิดเห็นที่: 6
 แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่สามารถจับตัวคนร้าย หรือผู้บงการมาดำเนินคดีได้


(ต่อข่าวให้คุณแพนด้าน้ำ)
นณณ์ approve [ 21 พ.ค. 2550 16:36:14 ]
ความคิดเห็นที่: 7
ก็เพราะไม่ใช่นามสกุลเดียวกัน หรือโคตรเดียวกับนักการเมืองหรือพวกไฮโซ ศักดินา ไม่มี จนท ใด มัน Care Damn หรอก
waterpanda [ 21 พ.ค. 2550 17:53:47 ]
ความคิดเห็นที่: 8
บางครั้ง กบฏ หรือ Separatism ก็คือความชอบธรรม ถ้าผู้ได้เปรียบ (ผู้มีอำนาจ)มักบอกว่า ความยุติรรมไม่มีหรอก ในความเป็นจริง
waterpanda [ 21 พ.ค. 2550 17:58:38 ]
ความคิดเห็นที่: 9
ตอนเรียนที่รามเคยได้ฟังเรื่องราวมาบ้าง ก็ยังใจหายเลย
kanok approve [ 21 พ.ค. 2550 20:12:01 ]
ความคิดเห็นที่: 10
คนที่จากไปก็ให้จดจำไว้ในความดีของเขา    แต่คนที่จะสืบสานต่อ  ขอให้ทำด้วยใจ  อย่าเคลือบแฝง
ในอดีตบ้านชมภูเป็นพื้นที่สีชมพู  มีคำพูดว่า  ยิงก่อนถามทีหลัง   (กรรมมีจริง)
คนชมภูแท้ ๆ [ 05 ส.ค. 2550 15:04:04 ]
ความคิดเห็นที่: 11
โจถูกฆ่าเนื่องจากคดีโรงโม่ ของ อนุมัติการศิลา  ผู้ขอสัมปทานชื่อ นางสาวนริฎา สินค้างาม  โดยเป็นเจ้าของสัมปทานเพียงในนาม แทนนายอนุมัติ นูนคาน เพียงไม่นานหลังได้สัมปทาน นายอนุมัติถึงแก่กรรมลง ผู้เข้ารับผิดชอบคือ ภรรยา และลูกของนายอนุมัติ  ลูกสาวคนโต แต่งงานกับผู้มีอิทธิพลคนหนึงของพิษณุโลก ชื่อนายอนุชา น้อยวงศ์  ...  ต่อมาเกิดความผิดพลาดที่ผู้จัดการเหมืองระเบิดเหมืองผิดจุดจึงต้องปิดโรงโม่ชั่วคราว เพื่อความสะดวกในการเปิดโรงโม่  นายอนุชาจึงได้เข้าสมัครรับเลือกตั้ง ส.จ.เขตเนินมะปราง ซึ่ง ได้มาไม่ยากนัก  และได้ใช้อิทธิพลมืดในการถางทางทุกอย่างเพื่อให้โรงโม่ได้เปิดทำการ..... เพื่อสมบัติของภรรยา ก็ของตัวเองนั่นแหละ...........  สุดท้าย ทำอะไรไม่ได้ ก็แค้น  ก็เลยยิงหัวหน้าทิ้งซะ......   ตามสันดานของคนๆ นี้ ที่ชอบรังแกคนไม่มีทางสู้  พอเจอคนจริงก็ขี้ขลาดตาขาวสุดๆ ...คอนเฟิร์ม...  
        ถ้าใครมีปัญญาก็จัดการสิ   คนแบบนี้อยู่ไปก็รกโลก....   เราผู้รู้จริง เพราะเราคือผู้ใกล้ชิดของกำนัน อนุมัติ นูนคาน  คนดีผู้ล่วงลับ   เหลือไว้ แต่คนไร้สมองที่ต้อง แต่งงานกับหมาจิ้งจอก........
ผู้รู้จริง....โปรดฟัง [ 27 ส.ค. 2550 09:06:56 ]

- ปิดกระทู้ -

www.siamensis.org - Thailand Fish & Nature Explorer
An independent non-profit group
Established 2001
 All Rights Reserved 2001-2010 ©siamensis.org