ความคิดเห็นที่: 1

ตัวนี้ Ampelisca cyclops ขุดรูอยู่เจ้าค่ะ พอในยามหาอาหาร ก็จักยื่นหนวดออกมากวาดอาหารบนพื้นดินกันให้ครึกครื้น แถมในยามกลางคืน ก็ทะลึ่งออกมากรองอาหารกินในมวลน้ำอีก อย่าได้ดูเบามันเจ้าค่ะ
แอมฟิพอดสกุลนี้เป็นสกุลแรกที่อิฉันจักแยกออกมาจากสกุลอื่น ด้วยว่าหน้าตามันโดดเด่น คือหัวยาว หนวดยาว urosome (ปล้องหาง)สองปล้องสุดท้ายรวมกัน

ampelisciphotis [ 19 ก.ค. 2550 00:05:54 ]

ความคิดเห็นที่: 2

อันนี้เปนรูปขาคู่ที่ 7 ของเจ้ากุ้งเต้นใน Family Ampeliscidae เจ้าค่ะ ข้อที่สองบานออกไปทางด้านหลัง ต้องผ่าตัดจึ่งจักเห็นชัดเจนนะเจ้าคะ
รูปจากหนังสือของขรัวตา Barnard and Karaman 1991 ถือเป็นคัมภีร์ลับในตำนานของคนทำแกมมาริดแอมฟิพอดเลยนะเจ้าคะ เพราะขรัวตาท่านทำมันทั้งโลก แถมเขียนเรื่องวิวัฒนาการให้อีกต่างหาก

...แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 2550 00:15:27

ampelisciphotis [ 19 ก.ค. 2550 00:09:51 ]

ความคิดเห็นที่: 3

ตัวนี้ Synchellidium sp. เจ้าค่ะ ข้อสังเกตของ Family Oedicerotidae  นี้ก็คือตาค่อนข้างโต แลขาคู่ที่ 7 ยาวกว่าคู่อื่น อีกขาเดินคู่อื่นๆ  ก็มีขนแลหนามรกรุงรัง อันมีศัพท์เฉพาะเรียกว่า fossorial ชะรอยจักเป็นรูปแบบของแอมฟิพอดโบราณกระมัง

ampelisciphotis [ 19 ก.ค. 2550 00:13:19 ]

ความคิดเห็นที่: 4

อันนี้เอามาให้ดูลักษณะทวิสัณฐานระหว่างเพศ (sexual dimorphism) ตัวผู้ตัวเมียหน้าตาแตกต่างกัน อันคนคีย์ครัสเตเชียนจักรู้ซึ้งดี ถึงความระกำในยามในตัวอย่างมาเป็นตัวเมีย แค่ตัวเดียว  แต่ในคีย์ทะลึ่งให้ดู แต่ตัวผู้
สองตัวนี้ คือ Grandidierella sp. ลองทายดูสิเจ้าคะ ว่าตัวใดเปนตัวเมีย แลตัวใดเปนตัวผู้

ampelisciphotis [ 19 ก.ค. 2550 00:22:53 ]

ความคิดเห็นที่: 5

น่าสนใจดีครับ กลุ่มนี้เจอบ่อยๆ  แต่ไม่ใคร่จะรู้จักเลยครับ

coneman [ 19 ก.ค. 2550 00:29:17 ]

ความคิดเห็นที่: 6

เจ้า Jassa marmorata ตัวนี้ยิ่งแสบหนัก เพราะนอกจากจักมีตัวผู้ตัวเมียแล้ว ตัวผู้ยังแบ่งเป็น major กับ minor อีก หมีดีหมีร้าย คงจักได้คีย์ผิดเตลิดเข้าป่าเป็นบ้าตายกันมั่ง

รูปนี้จาก Kurdziel, P. J. and Knowles, L. L. 2002. The mechanism of morph determination in the amphipod Jassa: implications for the evolution of alternative male phenotypes. Proc. R. Soc. Lond. B (2002) 269, 1749–1754

ampelisciphotis [ 19 ก.ค. 2550 00:35:56 ]

ความคิดเห็นที่: 7

ตัวนี้เป็นแอมฟิพอดที่อิฉันชอบมาก  แต่ยังจนปัญญาจักทำ ด้วยว่า gammarid เพียงอย่างเดียวก็ยังเอาตัวมิรอด
caprellid amphipod นี้ เป็นกลุ่มที่วิวัฒนาการสูง จึงลดรูปขาเดิน ขาว่ายน้ำลง แลรวมปล้องอกบางปล้องเข้าด้วยกัน ตัวนี้ลดเพลินไปหน่อย เหลือแค่ 4 คู่
แมงสาบทะเลลาง Order โดยเฉพาะตัวที่เป็นปรสิต ก็มีการรวมปล้องอกบางปล้องเข้าด้วยกัน ให้นัก taxo มือใหม่ งุนงง ว่าเป็นตัวแมงอะไร

...แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 2550 00:46:28

ampelisciphotis [ 19 ก.ค. 2550 00:40:03 ]

ความคิดเห็นที่: 8

ปิดท้ายราตรีนี้ด้วยรูปที่ได้มาจากเจ้าพ่อปลาหมึกท่านหนึ่ง ซึ่ง อิฉันก็ไม่รู้ว่าขรัวท่านไปได้มาจากที่ใด  แต่เป็นรูปที่อิฉันอยากจักถ่ายอะไรเยี่ยงนีให้ได้สักคราหนึ่งในชีวิต

ampelisciphotis [ 19 ก.ค. 2550 00:44:20 ]

ความคิดเห็นที่: 9

เมื่อคืนหลังจากปิดไฟแล้ว เดินไปดูตู้ปลา
เห็นมีพวกนี้ออกมาวิ่งเล่นอยู่เหมือนกัน ไว้จะดักจับมาให้คุณ ampelisciphotis ส่องเล่นดูบ้าง

Mb. [ 19 ก.ค. 2550 01:16:21 ]

ความคิดเห็นที่: 10

สวยงามอย่างที่มองไม่เห็นครับ น่ารักทุกตัวเลยครับ

ฉลามเสือ [ 19 ก.ค. 2550 02:17:16 ]

ความคิดเห็นที่: 11

ได้ความรู้ดีขอรับ  ถ้าน้องท่านมีอันใดจักนำมาบอกกล่าวเล่าขานให้ฟังอีก จุ่งเร่งนำมาว่ากล่าวโดยพลัน อย่าได้ช้าที ข้าน้อยจักน้อมรอ

หอยทากชรา [ 19 ก.ค. 2550 07:14:04 ]

ความคิดเห็นที่: 12

ได้ความรู้ดีค่ะ

Montela_Hoya [ 19 ก.ค. 2550 09:19:20 ]

ความคิดเห็นที่: 13

ถามหน่อยว่า ไอ้ตัวที่ เท่าเม็ดข้าวเล็กๆ รีๆ  สีขาวขุ่น ที่อยู่ตามที่ ชื้นๆ  โดดได้ นั้น อยู่ในกลุ่มกุ้งเต้นรึป่าวครับ

โน่ [ 19 ก.ค. 2550 09:53:00 ]

ความคิดเห็นที่: 14

ไม่น่าจะใช่เจ้าค่ะ ด้วยกุ้งเต้นส่วนใหญ่เจอะในน้ำฤาในทะเล มีบางชนิดที่อยู่ตรงที่แห้งๆ  บริเวณสันทรายแลเจอในป่าตามถ้ำบ้าง ส่วนใหญ่บนบกจะเป็นญาติของกุ้งเต้นที่เรียกว่าไอโซพอด อันมีตัวกะปิ แมงเจาะไม้  และแมงกระดานถ้ำเปนอาทิ พบตามที่ชื้นแฉะแลขอนไม้ ด้วยเจ้าพวกนี้นิยมกินอินทรียสาร และซากเน่าเปื่อย นอกจากนี้ ขาของกุ้งเต้นส่วนใหญ่ พัฒนามาให้ว่ายน้ำมากกว่าที่จะใช้เดิน จึ่งมักเจอกุ้งเต้นมันเคลื่อนไหวแบบแถกๆ  (glinding) มากกว่าที่จะเดิน แต่ก็มิแน่เหมือนกัน ลางตัวมันก็กระโดดได้ อิฉันเองก็มิได้ออกป่านานนม แลเรื่องทางบกก็มิถนัดนัก หากเท่าที่เคยออกป่า ก็เจอะ แต่ไอโซพอด ยังมิเคยเจอกุ้งเต้นเลย
ว่า แต่ที่ชื้นนั้นเป็นที่แบบใดเจ้าคะ หากเป็นที่ชื้นในบ้าน อาจเป็นแมลงสาบบกก็ได้กระมังคะ :-)

อย่างไรก็ดี หากมีรูปมาให้เห็นสักนิด คงพอบอกได้ว่าเป็นตัวอะไรเจ้าคะ
สัปดาห์หน้า เมื่อเสร็จกิจ อาจจักได้ย้ายไปเล่าเรื่องไอโซพอดได้บ้างเจ้าค่ะ

...แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 2550 13:11:57

ampelisciphotis [ 19 ก.ค. 2550 10:17:31 ]

ความคิดเห็นที่: 15

เจ๋งดีครับ ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ  ครับ

Due_n [ 19 ก.ค. 2550 17:20:00 ]

ความคิดเห็นที่: 16

แมงกระดานถ้ำ Stenasellid ถึงจะเดิน แต่ก็อยู่ในน้ำนะคร๊าบ ไม่ได้อยู่บนบก

นณณ์ [ 19 ก.ค. 2550 23:25:19 ]

ความคิดเห็นที่: 17

ตามที่คุณนนท์บอกเจ้าค่ะ อิฉันเขียนไม่ละเอียดเองเจ้าค่ะ ตัวที่อยู่บนบกคือกลุ่มตัวกะปิ แมงเจาะไม้ เจ้าค่ะ ขออภัยในความสะเพร่าเจ้าค่ะ :- |

ampelisciphotis [ 20 ก.ค. 2550 09:11:57 ]

ความคิดเห็นที่: 18

เล่าแถมอีกหน่อยเถิด
หลายคนอาจจักงงว่าเจ้ากุ้งเต้น มันอยู่เยี่ยงไรในแนวปะการัง ด้วยว่าแนวปะการังก็ดี หาดหินก็ดี ล้วนเป็นระบบนิเวศแบบตูดแข็ง (hard bottom)  แต่แท้จริงแล้วในแนวปะการังมี microhabitat มากมายให้เจ้ากุ้งเต้นพวกนี้เข้าไปครอบครอง ดังรูป

ampelisciphotis [ 20 ก.ค. 2550 12:29:26 ]

ความคิดเห็นที่: 19

แลเจ้ากุ้งเต้นในแนวปะการังนี้ จึ่งจัดอยู่ได้สองกลุ่ม คือเป็น Parbion คือคืบคลานอยู่ที่ก้อนปะการังนั่นแล กับเป็น cryptobion ที่ซ่อนอยู่ในก้อนปะการัง อันมีแอมฟิพอด Family Leucothoidae แล Anamixidae เปนอาทิ เจ้าสองตัวนี้อาจจักหลบอยู่กับดอกไม้ทะเล เพรียงหัวหอม หอยสองฝา ฟองน้ำตามสะดวกของมัน ฤาอยู่ในรูของไส้เดือนทะเลก็ได้ แลนอกจากนี้ยังมีอีกหลายชนิด ที่หลบอยู่ใต้พื้นทรายในแนวปะการัง หรืออยู่กับซากปะการังแตกหัก (coral rubble) ซึ่ง เจ้ากุ้งเต้นจักชอบมาก ด้วยว่ามีซอกหลืบสลับซับซ้อน เร้นกายจากผู้ล่าได้มิลำบาก

ampelisciphotis [ 20 ก.ค. 2550 12:40:49 ]

ความคิดเห็นที่: 20

ได้อะไรดีๆ  จากน้องท่านอีกแล้ว กำลังรอเรื่องต่อไปนะขอรับ ส่วนเรื่องที่นิมนต์ข้าน้อยไว้ ก็ขอรับกิจนิมนต์ แต่ขอเวลาหน่อยขอรับ

หอยทากชรา [ 20 ก.ค. 2550 12:44:27 ]

ความคิดเห็นที่: 21

ถึงครานี้ก็อาจมีคำถามว่าแล้วมันกินอะไรเป็นอาหาร
เจ้ากุ้งเต้นส่วนใหญ่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่กินอินทรียสาร ลางตัวก็กินซากเน่าเปื่อย ลางตัวกินสาหร่าย และสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน แลลางตัวเป็นผู้ล่า อิฉันเคยพบขาของไส้เดือนทะเล แลเข็มพิษของแมงกะพรุนในกระเพาะของมัน ซึ่ง อิฉันก็ยังอัศจรรย์ใจอยู่ไม่น้อย ว่ามันกินเข้าไปได้เยี่ยงไร

ampelisciphotis [ 20 ก.ค. 2550 13:23:31 ]